จากกรณีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โทรศัพท์แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กรมสรรพากรแจ้งเรื่องค้างภาษี พร้อมส่งลิงก์ผ่านแอปพลิเคชันไลน์ของลูกค้า อ้างว่าเป็นเว็บไซต์จากกรมสรรพากรให้กับลูกค้าธนาคารไทยพาณิชย์รายหนึ่ง โดยมิจฉาชีพได้พูดคุยหลอกลวง จนลูกค้าหลงเชื่อ ติดตั้งโปรแกรม ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อการถอนเงินออกจากบัญชี จากนั้นปรากฏข้อความเงินถูกโอนออกจากบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2565 ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุด ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้ออกมาชี้แจงโดยระบุว่า ธนาคารมิได้นิ่งนอนใจและให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเต็มที่ เพื่อให้มีหลักฐานในการติดตามจับกุม กลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าว พร้อมเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น พบว่า การถอนเงินจากบัญชีมิได้เกิดขึ้นจากความผิดปกติของระบบธนาคาร แต่เป็นลักษณะของการทุจริตในรูปแบบ Phishing และอยู่นอกเหนือจากความรับผิดชอบของธนาคาร
ธนาคารขอเรียนให้ทราบว่า ปัจจุบันมีมิจฉาชีพพยายามหลอกลวงขอข้อมูลเพื่อให้ลูกค้าของสถาบันการเงินหลงเชื่อและตกเป็นเหยื่อด้วยการให้ข้อมูลส่วนตัว รวมถึงรหัสต่างๆ ซึ่งที่ผ่านมา ธนาคารฯ ได้สื่อสารข้อความการเตือนภัยแก่ลูกค้าผ่านช่องทางต่างๆ ของธนาคารฯ เช่น เว็บไซต์, เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์, ไลน์ และ Tiktok : SCB Thailand รวมถึงผ่านสื่อ ATM และสาขาของธนาคารอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ลูกค้าเพิ่มความระมัดระวังในการทําธุรกรรม และขอเรียนว่า ธนาคารฯ ไม่มีนโยบายในการส่งข้อความผ่านทาง SMS, อีเมล, LINE หรือช่องทางออนไลน์ต่างๆ เพื่อขอข้อมูลส่วนตัวหรือรหัสของลูกค้าต่างๆ แต่อย่างใด
ทั้งนี้ เพื่อลดความเสี่ยงต่อบัญชีของลูกค้า ธนาคารฯ มีข้อแนะนำวิธีการสังเกต และการป้องกันเบื้องต้นในการใช้โทรศัพท์เพื่อทำธุรกรรมทางการเงิน ดังนี้
วิธีการสังเกตุ
วิธีป้องกันตัวเองเบื้องต้น
ธนาคารขอให้ลูกค้ามีความเชื่อมั่นในระบบของธนาคารที่มีการป้องกันความปลอดภัยในระดับสูงที่ได้มาตรฐานสากล การหลอกลวงของมิจฉาชีพนั้นมีหลากหลายวิธี ขอให้ลูกค้าโปรดระมัดระวังและติดตามข่าวสารผ่านช่องทางต่าง ๆ ของธนาคาร รวมถึงแนวทางการป้องกันตัวเองอย่างใกล้ชิด หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถาม ขอคำแนะนำมายังธนาคารได้ตลอดเวลาที่ SCB Call Center โทร.02 7777777