กสิกรไทยจับตาผลประชุมกนง.28ก.ย.2565 คาด ดัชนีหุ้นไทย 1,625-1665จุด
กสิกรประเมินสัปดาห์หน้า เงินบาทที่ระดับ 37.00-37.80 บาทต่อดอลลาร์ฯหลังทำถิติอ่อนค่าสูงในรอบเกือบ 16ปีที่ระดับ 37.57บาทต่อดอลล์ ก่อนจะพลักกลับมาปิดตลาด 37.55บาทเมื่อ 23 ก.ย. 2565
จับตา “ดอกเบี้ย-มุมมองต่อสถานการณ์เงินบาทในสัปดาห์หน้าระหว่างวันที่ 26-30กันยายน 2565 ตัวเลขส่งออกเดือนส.ค. ของไทย รวมถึงประเด็นการเมืองในประเทศรวมถึงทิศทางเงินทุนต่างชาติ
ธนาคารกสิกรไทยมองสัปดาห์หน้าระหว่างวันที่ 26-30กันยายน 2565 กรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ระดับ 37.00-37.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ เมื่อวันศุกร์ที่ 23 ก.ย. 2565 เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 37.55 บาทต่อดอลลาร์ฯ หลังแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบเกือบ 16 ปีที่ 37.57 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 37.07 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (16 ก.ย.)
ขณะที่ระหว่างวันที่ 19-23 ก.ย. นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 1,563 ล้านบาท และมีสถานะเป็น Net Outlow ออกจากตลาดพันธบัตรประมาณ 7,930 ล้านบาท (แบ่งเป็น ขายสุทธิพันธบัตร 7,925 ล้านบาท และตราสารหนี้ที่หมดอายุ 5 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด (บล.)มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,625 และ 1,610 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,650 และ 1,665 จุด ตามลำดับ โดยเมื่อวันศุกร์ (23 ก.ย.) ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,631.71 จุด เพิ่มขึ้นเพียง 0.08% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 65,311.10 ล้านบาท ลดลง 12.01% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 0.54% มาปิดที่ 679.19 จุด
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุมกนง. (28 ก.ย.) โดยเฉพาะเรื่องดอกเบี้ยและมุมมองต่อสถานการณ์เงินบาท ตัวเลขส่งออกเดือนส.ค. ของไทย รวมถึงกระแสเงินทุนต่างชาติและสถานการณ์ค่าเงินในภูมิภาค ประเด็นการเมืองในประเทศรวมถึงทิศทางเงินทุนต่างชาติ
ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ยอดขายบ้านใหม่ รายได้และรายจ่ายส่วนบุคคล และดัชนี PCE/Core PCE Price Index เดือนส.ค. รวมถึงตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2/65
ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ ดัชนี PMI เดือนก.ย. ของญี่ปุ่นและจีน ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนก.ย. (เบื้องต้น) ของยูโรโซน รวมถึงกำไรบริษัทภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค. ของจีนและดัชนี PMI เดือนก.ย.