ฝากเงินสดต้องใช้บัตร เริ่มเมื่อไหร่ เพราะอะไร กำลังเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจ หลังจากที่สถาบันการเงิน หรือธนาคารจะประกาศบังคับใช้
ทั้งนี้ "ฐานเศรษฐกิจ" ดำเนินการสืบค้นข้อมูลเพื่อหาคำตอบ คลายข้อสงสัย โดยพบว่า
"ฝากเงินสดต้องใช้บัตร" กลายเป็นระเด็นร้อนขึ้นมาทันที หลังจากที่ธนาคารกรุงไทย เป็นธนาคารแรกที่มีการประกาศบังคับใช้เรื่องดังกล่าว โดยให้มีผลตั้งแต่วันทื่ 15 พ.ย. เป็นต้นไป ซึ่งจะต้องใช้บัตรเดบิตหรือบัตรเครดิตของผู้ฝาก ส่งผลให้ประชาชนต้องมีภาระเพิ่มมากขึ้น กับค่าทำบัตร และค่าธรรมเนียมรายปี
สำหรับประเด็นดังกล่าวนี้นั้น มาจากจากกรณีสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้ดำเนินโครงการ CDM AMLO โดยออกมาตรการให้ธนาคารพาณิชย์ยืนยันตัวตนผู้ฝากเงินสดผ่านเครื่องอัตโนมัติ โดยใช้บัตรเดบิต หรือบัตรเครดิตของตนเองยืนยันตัวตนก่อนทำรายการฝากเงินสดที่เครื่องอัตโนมัติ (CDM) ทุกครั้ง เพื่อยกระดับความปลอดภัยในการทำธุรกรรม ตามกฎเกณฑ์หน่วยงาน ปปง. โดยลูกค้าต้องเสียบบัตรเดบิตหรือบัตรเครดิต และใส่รหัสผ่าน (PIN) ของผู้ฝากก่อนการฝากเงินสดที่เครื่องอัตโนมัติของทุกธนาคาร ตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย. เป็นต้นไป
เพจเฟสบุ๊ก Krungthai Care ของธนาคารกรุงไทย มีการเผยแพร่ข้อความเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว โดยระบุ และยืนยันว่า ตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย.65 เป็นต้นไป ฝากเงินสุดทุกครั้งที่ตู้อัตโนมัติทุกธนาคาร ต้องใช้บัตรเดบิต หรือบัตรเครดิตของผู้ฝาก
และหากไม่มีบัตรเดบิตหรือเครดิต จะต้องทำรายการผ่านช่องทางสาขาของธนาคารเท่านั้น
โดยสามารถใข้บัตรเดบิต หรือบัตรเครดิต ธนาคารใดก็ได้ จาก 11 ธนาคาร ประกอบด้วย
ส่วนเรื่องค่าธรรมเนียม ธนาคารกรุงไทยระบุว่า ไม่มีค่าธรรมเนียมสำหรับการใช้บัตรธนาคารอื่นเพื่อยืนยันตัวตน แต่จะมีค่าธรรมเนียมในการฝากเงินสดไปยังต่างธนาคารแทน ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขของแต่ละธนาคาร