CIMBT อัดงบลงทุนไอที20% ยกระดับลูกค้าสู่ดิจิทัล

01 มี.ค. 2566 | 08:44 น.
อัปเดตล่าสุด :01 มี.ค. 2566 | 09:02 น.

ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เผยแผนปี 66อัดงบลงทุนไอที 10-20%ยกระดับลูกค้าทำธุรกรรมผ่านช่องทางดิจิทัลเพิ่ม 20%จาก3แสนราย พร้อมชู7กลยุทธ์หนุนรายใหญ่ขยายธุรกิจในอาเซียน

ธนาคารซีไอเอ็มบีไทยเปิดแผนปี2566ตั้งเป้าสินเชื่อโต 9% กดเอ็นพีแอลไม่เกิน3.3%พร้อมตัดขายหนี้ เดินหน้ายกระดับสาขาบนห้าง 1-2แห่งเป็น "Wealth Center” 

นายพอล วอง ชี คิน กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย(CIMBT) เปิดเผยว่า

ปี2566 ธนาคารจะขับเคลื่อนการเติบโตสอดคล้องกับวิสัยทัศน์" To be a digital-led bank with ASEAN reach : ธนาคารอาเซียนขับเคลื่อนด้วยดิจิทัล

ผ่าน 7 กลยุทธ์หลัก ปรับพอร์ตโฟลิโอ กระจายผลิตภัณฑ์เงินฝาก ขับเคลื่อนต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ

สร้างคุณค่าผ่านดิจิทัล บริหารความเสี่ยงอย่างแข็งขัน สร้างเสริมพัฒนาทรัพยากรบุคคล และความยั่งยืน 

CIMBT อัดงบลงทุนไอที20% ยกระดับลูกค้าสู่ดิจิทัล

ต่อข้อถามเป้าหมายทางการเงินนั้น นายพอลกล่าวว่า  ธนาคารตั้งเป้าจะเติบโตสินเชื่อประมาณ 8-9% โดยจะขยายตัวในกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ที่มีการค้าและการลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับจุดแข็งของซีไอเอ็มบีกรุ๊ปที่มีเครือข่ายกระจายอยู่ในภูมิภาคอาเซียน

CIMBT อัดงบลงทุนไอที20% ยกระดับลูกค้าสู่ดิจิทัล

ดังนั้น ซีไอเอ็มบีไทยจะสนับสนุนลูกค้าไทยที่ต้องการออกไปลงทุนในอาเซียน ขณะเดียวกันจะดึงลูกค้าจากประเทศในอาเซียนเข้ามาลงทุนในไทยด้วย

 

ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) แนวโน้มทรงตัวคาดว่าจะบริหารจัดการให้อยู่ในระดับที่ไม่เกิน3.3%โดยรวมถคงการขายเอ็นพีแอลด้วย

 

นอกจากนี้ธนาคารตั้งงบประมาณลงทุนด้านไอทีและพัฒนาแพลตฟอร์ม10-20%และสนับสนุนให้ลูกค้าทำธุรกรรมผ่านช่องทางดิจิทัลเพิ่ม20%

"ปัจจุธนาคารมีฐานลูกค้าบุคคลประมาณ 6 แสนราย ซึ่งราว 50%หรือ3แสนรายได้ใช้บริการบนช่องทางดิจิทัลของธนาคารแล้ว ดังนั้น ปีนี้จะพยายามให้ลูกค้าที่เหลือขึ้นมาทำธุรกรรมบนดิจิทัลอีก 20%"

นอกจากนี้จะขยายบริการการชำระเงินระหว่างประเทศผ่าน QR Payment รวมถึงสนับสนุนการค้าและลงทุนระหว่างประเทศ (Cross border) ทั้งเชื่อมธุรกรรมกับกัมพูชา  มาเลเซีย  อินโดนีเซียและสิงคโปร์

และเป็นเครื่องมือที่ช่วยลูกค้าจัดการความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมเงินตราต่างประเทศ

ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จะมุ่งเน้นการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยยึด 4 แกนหลัก ได้แก่

1. Sustainable Action การดำเนินการที่ยั่งยืน

2. Sustainable Business ธุรกิจที่ยั่งยืน

3. Governance and Risk การกำกับดูแลและความเสี่ยง และ

4. Stakeholder Engagement and Advocacy การมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและการสนับสนุน นอกจากนี้ ด้านวัฒนธรรมองค์กร ธนาคารมีค่านิยมหลัก ‘EPICC’ ช่วยให้พนักงานก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับลูกค้า ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และสังคม

อย่างไรก็ตามธนาคารยังคงมุ่งมั่นสนับสนุนการเติบโตและความต้องการเงินทุนของลูกค้าองค์กร ในฐานะผู้ออกหุ้นกู้เอกชน หุ้นกู้รัฐวิสาหกิจ และหุ้นกู้ด้อยสิทธิคล้ายทุน

และติดอันดับ Top 5 ของการเป็นผู้จัดการจำหน่ายตราสารหนี้ของประเทศไทยและตั้งเป้าเพิ่มธุรกรรมด้านตราสารหนี้ผ่านช่องทางดิจิทัลปีนี้จะเติบโต 20% 

สำหรับนโยบายสาขานั้น ธนาคารมีแผนจะปรับปรุงสาขาที่มีอยู่ 53แห่ง โดยปีนี้จะปรับโฉมสาขาโดยเฉพาะสาขาบนห้าง 1-2แห่งเป็น “Wealth Center”  ซึ่งที่ผ่านมาได้ทยอยปรับลงไปแล้ว 10 สาขาและยังคงทยอยปรับปรุงในทุกปี

นายพอล กล่าวเพิ่มเติมว่า ธนาคารจะก้าวต่อไปในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นทางการเงินที่ดีที่สุดในตลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในสนามที่ธนาคารถนัดอย่างการบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management) ซึ่งการยกระดับและปรับปรุงช่องทางให้บริการการลงทุนที่หลากหลายช่วยให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ครอบคลุมครบวงจรและไม่ยุ่งยาก 

นอกจากนี้ ในปี 2565ที่ผ่านมาธนาคาร ได้เพิ่ม Open Architecture บนแอป CIMB TH Digital Banking เพื่อคัดสรรกองทุนรวมดีๆ จากบลจ.ชั้นนำให้ลูกค้าเลือกลงทุนง่ายๆ แค่ปลายนิ้ว

ขณะเดียวกันบัญชีเงินฝากดิจิทัล CHILL D และ Speed D+ ที่เปิดบัญชีได้ผ่านแอปได้รับการตอบรับอย่างมาก โดยภาพรวมเงินฝากออมทรัพย์และกระแสรายวัน (CASA) และเงินลงทุน (AUM) จากช่องทางดิจิทัลเติบโตมากกว่า 200%