ราคาหุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับตลาดคริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) ปรับตัวขึ้นคึกคักในวันนี้ หลังจากเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาราคา "บิทคอยน์" (BTC) ได้พุ่งขึ้นทะลุระดับ 30,000 ดอลลาร์ หรือสูงกว่า 1 ล้านบาท ทำจุดสูงสุดในปี 2566
โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในภาคธนาคารสหรัฐ เช้าวันนี้ (11เม.ย.66) ปรับตัวขึ้นกว่า 4% มาเคลื่อนไหวใกล้บริเวณ 30,000 ดอลลาร์ จากที่ราคาได้มีการซบเซา
กลุ่มหุ้นที่เกี่ยวข้องกับตลาดคริปโทเคอร์เรนซี ดีดตัวขึ้นรับราคาบิทคอยน์พุ่ง ประกอบด้วย
ZIGA ปรับตัวขึ้น 0.22 บาท (+7.05%) มาอยู่ที่ 3.34 บาท มูลค่าซื้อขาย 94.26 ล้านบาท
XPG ปรับตัวขึ้น 0.04 บาท (+3.70%) มาอยู่ที่ 1.12 บาท มูลค่าซื้อขาย 65.20 ล้านบาท
BROOK ปรับตัวขึ้น 0.49 บาท (+4.26%) มาอยู่ที่ 0.02 บาท มูลค่าซื้อขาย 9.84 ล้านบาท
JTS ปรับตัวขึ้น 0.50 บาท (+1.47%) มาอยู่ที่ 34.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 73.56 ล้านบาท
โดย ณ เวลา 08.58 น.ตามเวลาไทย ราคาบิทคอยน์ พุ่งขึ้น 1,036 ดอลลาร์ หรือ 3.56% แตะที่ 30,147 ดอลลาร์
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ราคา Bitcoin พุ่งทะยานทะลุ 1,000,000 บาท สูงสุดในรอบ 10 เดือน
ด้าน เอดเวิร์ด โมยา นักวิเคราะห์จากบริษัท Oanda ระบุว่า นักลงทุนเข้าซื้อเหรียญคริปโทเคอร์เรนซี ซึ่งรวมถึงบิทคอยน์ และอีเธอเรียม หลังจากมีสัญญาณบ่งชี้ว่าวิกฤตการณ์ในภาคธนาคารเริ่มบรรเทาลง ขณะที่นักลงทุนจับตาตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้
รวมทั้งรายงานผลประกอบการของธนาคารรายใหญ่ในสหรัฐ เพื่อประเมินแนวโน้มของภาคธนาคาร หลังจากการล้มละลายของซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB)
ขณะที่บริษัทจดทะเบียนของสหรัฐจะเริ่มรายงานผลประกอบการในสัปดาห์นี้ โดยธนาคารขนาดใหญ่ ได้แก่ เจพีมอร์แกน เชส, ซิตี้กรุ๊ป และเวลส์ ฟาร์โก จะรายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 1/66 ในวันศุกร์นี้
รวมทั้งนักลงทุนจับตาสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือน มี.ค.ในวันพุธที่ 12 เม.ย. รวมทั้งรายงานการประชุมนโยบายการเงินของเฟดประจำวันที่ 21-22 มี.ค.ในวันดังกล่าว และจากนั้นจะมีการเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ประจำเดือนมี.ค.ในวันพฤหัสบดีที่ 13 เม.ย.