สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวว่า นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐ กับนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ได้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นในการปรับเพิ่มเพดานหนี้ 31.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐของรัฐบาลกลางสหรัฐ เมื่อวันเสาร์ (27 พ.ค.) เพื่อป้องกันการผิดนัดชำระหนี้ นับเป็นการยุติการเจรจาที่หาทางออกไม่ได้มาเป็นเวลานานนับเดือน
แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ทำเนียบขาวและคณะผู้เจรจาซึ่งเป็นสมาชิกสภาจากพรรครีพับลิกัน ได้บรรลุข้อตกลงหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวระบุว่าไม่แน่ใจว่าตอนนี้ทุกอย่างลงตัวแล้ว อาจมีปัญหาเล็ก 1 - 2 เรื่อง ที่ทั้งสองฝ่ายต้องจัดการให้เรียบร้อย แต่ก็คืบหน้ามากเพียงพอที่เดินหน้าต่อไป
ก่อนหน้านี้ ปธน.ไบเดนและนายแมคคาร์ธี ได้พูดคุยกันทางโทรศัพท์เป็นเวลา 90 นาที เพื่อหารือเกี่ยวกับข้อตกลง
รายงานระบุว่า ร่างข้อตกลงดังกล่าวจะป้องกันการผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งจะก่อให้เกิดความไม่มั่นคงทางเศรษฐกิจ โดยร่างนี้จะต้องส่งผ่านไปยังสภาคองเกรสเพื่อให้อนุมัติต่อไป ก่อนที่กระทรวงการคลังจะไม่เหลือเงินเพียงพอสำหรับการชำระหนี้ทั้งหมด โดยนางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐได้เตือนว่าเมื่อวันศุกร์ (26 พ.ค.) ว่า เรื่องนี้จะเกิดขึ้น หากไม่ปรับเพิ่มเพดานหนี้ ก่อนวันที่ 5 มิ.ย.
พรรครีพับลิกัน ซึ่งเป็นผู้มีเสียงข้างมากในสภา ได้ผลักดันให้ลดการใช้จ่ายและเงื่อนไขอื่น ๆ รวมถึงข้อกำหนดใหม่สำหรับโครงการสวัสดิการบางอย่างสำหรับช่วยเหลือชาวอเมริกันที่มีรายได้น้อยและการถอนเงินทุนออกจากกรมสรรพากรแห่งสหรัฐ (IRS) พวกเขากล่าวอีกว่า ต้องการชะลอการเติบโตของหนี้สหรัฐ ซึ่งในขณะนี้เท่ากับผลผลิตต่อปีของเศรษฐกิจของประเทศ
ทั้งนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดที่แน่ชัดของข้อตกลงขั้นสุดท้ายได้ในขณะนี้ แต่ผู้เจรจาได้ตกลงว่าจะจำกัดการใช้จ่ายที่ไม่เกี่ยวข้องการด้านการกลาโหมตามดุลยพินิจ ให้อยู่ในระดับเดียวกับการใช้จ่ายในปี 2566 เป็นเวลา 2 ปี เพื่อแลกกับการปรับเพิ่มเพดานหนี้