นายประยงค์ มุ่งยุทธกลาง ผู้อำนวยการสำนักงาน ธ.ก.ส.จังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ธ.ก.ส.จังหวัดนครราชสีมามีทั้งหมด 37 สาขา มีการปล่อยสินเชื้อเงินกู้ให้แก่เกษตรทั้งหมดรวม 78,000 ล้านบาทซึ่งมากที่สุดในประเทศไทย และมีหนี้ที่ถึงกำหนดต้องชำระหนี้ในปีนี้ประมาณ 50,000 ล้านบาท เราตั้งเป้ารับชำระหนี้ร้อยละ 98
และในช่วงปลายปีบัญชีคือตั้งแต่บัดนี้จนถึงปลายเดือน มี.ค. 67 ซึ่งเป็นช่วงที่เกษตรกรทยอยนำเงินมาชำระหนี้เพราะเป็นช่วงฤดูการเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตรของเกษตรกร ขณะนี้มียอดชำระแล้วประมาณ 1.5 ล้านบาท แต่ปีนี้พืชผลทางการเกษตรค่อนข้างดี ทั้ง อ้อย มันสำปะหลังและข้าว โดยในช่วง 3 เดือนนี้ (ม.ค.-มี.ค.) มีหนี้ที่ต้องชำระจากเกษตรกร 39,000 ล้านบาท ถือเป็นภาพที่ใหญ่มากของเรา
นายประยงค์ กล่าวอีกว่า เรามีมาตรการกระตุ้น คือ “ชำระดีมีโชค” มอบสำหรับลูกค้าชำระดีกับธนาคาร โดยเป็นมาตรการกระตุ้นและสร้างแรงบันดาลใจให้ลูกค้าปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการชำระหนี้ จากเดิมมาชำระหนี้ในช่วงใกล้ถึงกำหนดชำระเป็นชำระหนี้เป็นรายวัน รายเดือน รายไตมาส หรือในช่วงที่ลูกค้ามีรายได้เพื่อจูงใจให้ชำระหนี้ โดยลูกค้ามีสิทธิ์ลุ้นรางวัลจากการชำระหนี้ มีหลักเกณฑ์เงื่อนไขตามที่ธนาคารกำหนด เช่น
เป็นลูกค้าที่มีสถานะหนี้เป็นหนี้ปกติ หรือหนี้ 0-3 เดือนหรือหนี้ NPL ไม่เป็นลูกค้าที่สถานะเป็นหนี้ดำเนินคดี หรือ ลูกค้าที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ตามหมายล้มละลาย ตามหลักเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนดไม่เป็นสินเชื่อสัญญาเบิกเกินบัญชี ซึ่งระยะโครงการตั้งแต่ 1 ต.ค.66-31 ก.ค. 67 โชคชั้นที่ 1 เมื่อลูกค้าชำระดอกเบี้ยสะสมได้ครบทุก ๆ 1,000 บาทจะได้รับสิทธิ์ในการลุ้นรางวัล 1 สิทธิ์ จับรางวัลในแต่ะละไตรมาสของธนาคาร
ส่วนโชคชั้นที่ 2 ธนาคารจะนำข้อมูลจำนวนสิทธิ์ที่ได้รับจากการชำระดอกเบี้ยสะสมในแต่ละไตรมาสรวมกับสิทธิ์ที่ได้รับจากการชำระต้นเงินสะสมตั้งแต่ 1 ต.ค. 66- 30 มิ.ย.67 รางวัลใหญ่เป็นรถยนต์กระบะ 71 รางวัล รถจักรยานยนต์ 235 รางวัล และบัตรกำนัน ธ.ก.ส. จำนวน 47,610 รางวัล
อย่างไรก็ตาม ธ.ก.ส.จังหวัดนครราชสีมายังมีหนี้เสียที่จะต้องดำเนินการติดตามทวงหนี้จำนวนร่วม 4,000 ล้านบาท ขณะนี้เราได้ลงนามความร่วมมือในโครการไกล่เกลี่ยฟ้องกับศาลจังหวัดบัวใหญ่ ซึ่งมีเกษตรกรเข้าร่วมไกล่เกลี่ยวไปจำนวน 6 ราย และกำลังขยายออกไปต่อเนื่อง โดยทาง ธ.ก.ส.จังหวัดนครราชสีมาจะร่วมกับศาลจังหวัดทุกแห่งในการดำเนินการเรื่องดังกล่าว เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกหนี้ได้เข้ามาเจรจาไกล่เกลี่ยหนี้สินอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ธ.ก.ส.ยังมีมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรลูกค้าผู้สูงอายุ (ตั้งแต่ 60 ปีขี้นไป) ในโครงการสินเชื่อแทนคุณโดยดำเนินการรวมสัญญาเงินกู้ซึ่งเดิมอาจจะมีหลายสัญญาและมีภาระหนัก มาเป็นการจ่ายสินเชื่อแทนคุณ ให้กับทายาทเพื่อไปชำระปิดหนี้เดิมของลูกค้าสูงอายุที่มีอยู่กับ ธ.ก.ส. (ต้นเงินและดอกเบี้ย) ซึ่งเงื่อนไขเป็นไปตามธนาคารกำหนด ซึ่งเรามีสินเชื่อแทนคุณในวงเงินกู้ 20,000 ล้านบาทโดยใช้แห่งเงินทุนของ ธ.ก.ส.มีกำหนดระยะเวลาการจ่ายเงินกู้ตั้งแต่ 1 ส.ค.66-31 มี.ค.67 ธนาคารจะคิดอัตราดอกเบี้ยพิเศษ
โครงการดังกล่าวนี้ถือเป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญของธนาคารในการดูแลลูกค้าสูงอายุ และสร้างทายาทรุ่นใหม่ทดแทน จึงมีความจำเนในการดำเนินงานให้เกิดผลเป็นรูปธรรม และเป็นการผ่อนคลายแบ่งเบาหนี้ที่เป็นภาระหนักให้กับลูกค้าผู้สูงอายุด้วย
นายประยงค์ กล่าวอีกว่า ลูกค้า ธ.ก.ส.ของจังหวัดนครราชสีมามีจำนวนกว่า 320,000 ราย มีพนักงานและเจ้าหน้าที่ของ ธ.ก.ส.รวมกว่า 700 คน ซึ่งถือเป็นจำนวนมากที่สุดในประเทศไทย เป้าหมายหลักในการดำเนินงานปี 2567 คือการยกระดับเกษตรกรให้มีความเข้มแข็งสามารถดำเนินการครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ โดยเฉพาะการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลผลิตทางการเกษตรให้สามารถสร้างรายได้เพิ่มสูงขึ้นจากเดิมที่เป็นอยู่
โดยเรามีโครงการเกษตรกรพันธุ์แกร่ง ซึ่งเกษตรกรกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีความเข้มแข็งเป็นคนรุ่นใหม่ มีการทำการตลาดที่สร้างต่อยอดไปได้อย่างยั่งยืน โดย ธ.ก.ส.จะสนับสนุนในการเพิ่มองค์ความรู้ สนับสนุนสินเชื้อหรือเงินทุน และแสวงหาความร่วมมือจากองค์กรต่างๆ เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดย ธ.ก.ส.ให้การช่วยเหลือด้านตลาด
นอกจากนั้รมีโครงการ “ตลาดประชารัฐ” “ตลาดออนไลน์ ธ.ก.ส.” ซึ่งจะคัดสินค้าเกรดเอของเกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส. มาเสนอขายบนแพลตฟอร์มออนไลน์ เป็นพี่เลี้ยงในการทำตลาดให้แก่เกษตรกร โดยมีเป้าหมายในการขยายสินเชื้อในปีนี้เพิ่มอีกร้อยละ 5 ของสินค้าปีนี้ และติดตามทวงหนี้สำหรับลูกค้าที่เป็นหนี้เสีย ซึ่งสัดส่วนหนี้เสียของ ธ.ก.ส.โคราชยังอยู่ในเกณฑ์มาตรการและควบคุมได้ และคาดว่าปีนี้สินค้าเกษตรจะราคาดีต่อเนื่อง นายประยงค์ กล่าว