เมื่อวันที่ 16 เม.ย. 2567 กระทรวงแรงงานได้เปิดเผยถึงสินเชื่อสำหรับผู้ใช้แรงงานหรือลูกจ้าง โดยเฉพาะผู้ที่ไม่สามารถหาหลักทรัพย์ค้ำประกันการกู้ยืมเงินจากธนาคารพาณิชย์ทั่วไปได้ ภายใต้โครงการ "เงินกู้กองทุนเพื่อผู้ใช้แรงงาน Micro Finance ลดหนี้ เติมทุน สร้างสุขแรงงาน" ซึ่งมีวงเงินกู้ถึง 80 ล้านบาท สำหรับปีงบประมาณ 2567
โดยกองทุนเพื่อผู้ใช้แรงงานนี้เป็นทุนหมุนเวียนในการพัฒนารายได้ การออมทรัพย์ และปลดเปลื้องหนี้สินของผู้ใช้แรงงานผ่านสหกรณ์ออมทรัพย์ สำหรับสหกรณ์หรือเครดิตยูเนี่ยนที่ต้องการกู้เงินสามารถยื่นขอกู้ผ่านระบบ e-Service ของกองทุนฯ
คุณสมบัติผู้ขอสินเชื่อ
คุณสมบัติผู้ขอสินเชื่อในโครงการ "เงินกู้กองทุนเพื่อผู้ใช้แรงงาน Micro Finance ลดหนี้ เติมทุน สร้างสุขแรงงาน" คือต้องเป็นผู้ใช้แรงงานหรือลูกจ้าง ที่เป็นสมาชิกของสหกรณ์ออมทรัพย์ หรือเครดิตยูเนี่ยนในสถานประกอบกิจการ หรือรัฐวิสาหกิจ สามารถติดต่อเพื่อยื่นเรื่องขอกู้ผ่านติดต่อที่สหกรณ์ออมทรัพย์ หรือเครดิตยูเนี่ยนที่ตนเป็นสมาชิกอยู่
อัตราดอกเบี้ย และการผ่อนชำระ
โดยสหกรณ์ออมทรัพย์ สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนในสถานประกอบกิจการและรัฐวิสาหกิจ ที่มีความประสงค์จะกู้เงินจากกองทุนเพื่อผู้ใช้แรงงาน ส่วนกลางสามารถยื่นคำขอได้ที่กองสวัสดิการแรงงาน กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ชั้น 3 และส่วนภูมิภาคยื่นคำขอได้ที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดทุกจังหวัด หรือสามารถยื่นกู้ผ่านระบบ e-service ได้ที่ กองทุนเพื่อผู้ใช้แรงงาน
ทั้งนี้ Micro Finance หมายถึง โดยทั่วไปหมายถึง บริการทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็นเงินฝาก เงินกู้ ประกันภัย หรือการโอนเงิน ที่มีมูลค่าไม่มากนัก ซึ่งเหมาะสมกับความต้องการของประชาชนรายย่อยๆ ซึ่งธนาคารพาณิชย์จำนวนมากในหลายประเทศประสบผลสำเร็จในการประกอบธุรกิจไมโครไฟแนนซ์ ที่เกิดผลประโยชน์ทางธุรกิจ รวมทั้งขยายกลุ่มลูกค้าให้กว้างขึ้น ครอบคลุมกลุ่มที่มีศักยภาพ
เพียงแต่เดิมคนกลุ่มนี้ไม่มีหลักประกัน หรือหลักฐานที่แสดงฐานะการเงินที่ตรงกับวิธีการพิจารณาสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์เดิม โดยในประเทศไทย แม่ค้าขายของซึ่งไม่มีบ้าน หรือที่ดินเป็นหลักประกันการกู้ยืมเงิน แต่มีแผงขายของในทำเลดีๆ ก็ถือว่ามีมูลค่า และเป็นเครื่องมือทำมาหากิน อาจถือว่าเป็นหลักฐานของฐานะการเงินที่ดีเพื่อการกู้ยืมเงินได้