เดอะวิสดอมกสิกรไทย ส่องโอกาสลงทุน ชี้ฟันด์โฟลว์ส่งสัญญาณไหลกลับเอเชียใต้

"พิชัย ยอดพฤติการ" ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส บมจ. หลักทรัพย์กสิกรไทย กล่าวในงานสัมมนา “THE WISDOM Wealth Decoded” ชี้สัญญาณบวกฟันด์โฟลว์ไหลกลับตลาดเอเชียใต้ เป็นโอกาสการลงทุน มองตลาดอินเดีย เวียดนาม อินโดนีเซีย มาแรง อัตราการเติบโตเศรษฐกิจดีต่อเนื่อง ชูตราสารหนี้เอเชียทำผลงานดีในช่วงเฟดลดดอกเบี้ย พร้อมแนะกองทุนเด่น สร้างผลตอบแทนที่มั่นคงให้นักลงทุน

นายพิชัย ยอดพฤติการ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส บมจ. หลักทรัพย์กสิกรไทย เปิดเผย ในงานสัมมนา “THE WISDOM Wealth Decoded : จับตาการกลับมาของเศรษฐกิจเอเชีย ท่ามกลางมรสุมโลก” ว่า จากการเฝ้าสังเกตการกระแสเงินลงทุนต่างชาติ (ฟันด์โฟลว์) ที่เริ่มส่งสัญญาณการไหลออกจากเอเชียเหนือ และไหลเข้าสู่เอเชียใต้มากขึ้น ทำให้มองว่าเป็นโอกาสของตลาดหุ้นฝั่งเอเชียใต้ แต่การที่จะไปลงทุนในประเทศไหนก็ต้องลงลึกไปดูในรายละเอียดด้วยว่า อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในประเทศนั้นเป็นไปอย่างไรบ้าง รวมถึงความได้เปรียบในเรื่องของโครงสร้างประชากร และการบริโภคภายในประเทศ

ในด้านของประชากรนั้น อินเดียมีจำนวนประชากรอันดับ 1 ของโลก และยังมีอัตราการเติบโต 0.8% ต่อปีในอีก 5 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ อัตราการเติบโตของประชากรที่ยังคงมีแนวโน้มที่ดีรองลงมา คือ เวียดนาม และอินโดนีเซีย ในขณะที่จีนมีการเติบโตของประชากรลดลง -0.4% เช่นเดียวกันกับไทย ที่เข้าสู่ยุคสังคมผู้สูงวัยมากขึ้น มีอัตราการเกิดใหม่น้อยลง

ส่วนรายได้ประชากรนั้น ปัจจุบันจีนมีรายได้ประชากรต่อหัวที่ 13,140 เหรียญ ขณะที่อินเดียมีการเติบโตมากที่สุดที่ 9.4% อินโดนีเซียโต 7.4% เวียดนาม 7.2% และไทย 5.3% เป็นต้น ซึ่งการเติบโตของรายได้แสดงถึงความสามารถการบริโภคในอนาคต

นอกจากนี้ จากการที่นักวิเคราะห์ได้ประมาณการกำไรบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นจากต่างประเทศ พบว่า กำไรบริษัทจดทะเบียนในอินเดีย (Nifty) เติบโตทำให้มีการปรับประมาณการเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยในปี 2568 คาดว่าจะขยายตัวกว่า 23% เวียดนาม (VN Index) 19% อินโดนีเซีย (JCI) เติบโตอยู่ในระดับสูง

การลงทุนในยุค "ดอกเบี้ยขาลง"

หลังจากที่ธนาคารกลางหลายประเทศทั่วโลกได้ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยไปก่อนหน้าแล้ว ล่าสุดธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ได้ลดดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี ซึ่งจะทำให้ราคาตราสารหนี้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะตราสารหนี้ฝั่งเอเชีย เนื่องจากตราสารหนี้สหรัฐฯ ได้ปรับราคาขึ้นรับข่าวไปก่อนหน้านี้แล้ว นอกจากนี้ในภาคอสังหาฯ ก็ได้ประโยชน์เช่นกัน เนื่องจากนักลงทุนมองหาผลตอบแทนในช่วงที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลลดลง พวกเขาอาจย้ายเงินมาลงทุนใน REITs ซึ่งสามารถให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า

จากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน มีกองทุนแนะนำที่น่าสนใจ 3 กองทุน ได้แก่

1. K-APB-A(A) ลงทุนในตราสารหนี้ โดยเน้นผู้ออกตราสารหนี้ในเอเชียแปซิฟิก (รวมถึงญี่ปุ่น)
2. K-GINFRA-C(A) ลงทุนในหุ้นและ REITs ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลก
3. K-VIETNAM ลงทุนในหุ้นเวียดนามที่มีสถานะทางการเงินแข็งแกร่ง

ลูกค้าเดอะวิสดอมกสิกรไทยสามารถติดตามงานสัมมนา THE WISDOM Wealth Decoded ครั้งต่อไปได้ที่ https://www.kasikornbank.com/k_3ze7XMU

#KBankTHEWISDOM #WealthDecoded #KBank

*ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน