เงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบกว่า 30 เดือน ที่ 32.47 บาทต่อดอลลาร์ฯ ก่อนจะกลับมาปิดตลาดที่ระดับ 32.51 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 32.70 บาทต่อดอลลาร์ฯ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่าเงินบาทยังคงขยับแข็งค่าขึ้น สอดคล้องกับจังหวะการแข็งค่าของค่าเงินหยวน ซึ่งได้รับอานิสงส์จากความหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของทางการจีน
นอกจากนี้เงินบาทยังมีปัจจัยบวกเพิ่มเติมจากการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลกที่ไปทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ด้วยเช่นกัน
อนึ่ง เงินบาทขยับแข็งค่าขึ้น แม้ว่าในวันนี้ นักลงทุนต่างชาติจะอยู่ในฝั่งขายสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทย 1,326 ล้านบาท และ 3,230 ล้านบาท ตามลำดับ
ส่วนค่าเฉลี่ย Indicative forward points ของธุรกรรมระยะ 3 เดือนสำหรับผู้ประกอบการที่มีรายได้ 50-200 ล้านบาทต่อปี รายงานข้อมูล ณ 10.00 น. วันที่ 26 กันยายน จากเว็บไซต์ ธปท. อยู่ที่ -21.44 สำหรับผู้ส่งออก (ขายเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า) และที่ -18.02 สำหรับผู้นำเข้า (ซื้อเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า)
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ 32.40-32.80 บาทต่อดอลลาร์ฯ
ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามจะอยู่ที่ทิศทางเงินทุนต่างชาติ สถานการณ์สกุลเงินในเอเชียและราคาทองคำในตลาดโลก ตัวเลขกำไรของภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค. ของจีน ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ
อาทิ อัตราเงินเฟ้อที่วัดจากดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนส.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นและตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อในมุมมองผู้บริโภคสหรัฐฯ เดือนก.ย.