ข้อควรรู้ก่อนลงทุนตราสารหนี้ ดอกเบี้ยสูงเสี่ยงมาก?

31 ธ.ค. 2567 | 01:00 น.

ทำความเข้าใจก่อนลงทุนตราสารหนี้ จูงใจจ่ายดอกเบี้ยระดับสูงความเสี่ยงก็ยิ่งมีมาก โอกาสที่จะไม่ได้เงินต้นคืนก็ตามมา หันมองระดับเครดิตเรตติ้งสูงหรือเหมาะสม อาจเป็นตัวช่วยการตัดสินใจลงทุนป้องกันความเสี่ยง แถมยังได้ผลตอบแทนดีติดกระเป๋า

ในช่วงที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าตลาดตราสารหนี้มีข่าวการแจ้งเลื่อนกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้กันเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ความเชื่อมั่นใจการลงทุนลดน้อยลง หลายบริษัทให้เหตุผลจูงใจจ่ายดอกเบี้ยในระดับที่เรียกว่าสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก แต่ก็แลกมาด้วยความเสี่ยงหลายประการ ทั้งสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว การแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรม

ส่งผลให้ผลงานของบริษัทที่อาจไม่ได้ดีอย่างที่คาด สิ่งที่หล่าบริษัทจดทะเบียนต้องมุ่งเน้นอย่างมากคือการรักษาสภาพคล่องของธุรกิจ ทำให้มีความจำเป็นในการขออนุมัติเลื่อนกำหนดการไถ่ถอนหุ้นกู้ออกไปอีกระยะหนึ่ง ทำให้การลงทุนตราสารหนี้ก็มีโอกาสที่จะไม่ได้เงินคืน หรือได้เงินคืนช้ากว่ากำหนดได้

ทั้งนี้ การผิดนัดชำระหนี้เป็นสิ่งที่เคยเกิดขึ้นมาหลายครั้ง โดยเฉพาะในกลุ่มของตราสารหนี้ที่มีความเสี่ยงสูง หรือตราสารหนี้ที่ไม่ได้จัดอันดับเครดิตเรตติ้ง ทำให้เกิดดความเสียหายกับผู้ถือตราสารหนี้ เพราะนอกจากจะไม่ได้รับดอกเบี้ยตามที่กำหนดแล้ว ยังไม่ได้รับเงินต้นคืนอีกด้วย

โดยหนึ่งในทางออกที่นักลงทุนจะสามารถใช้เพื่อลดความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ คือ การลงทุนในหุ้นกู้หรือ ตราสารหนี้ที่มีระดับเครดิตเรตติ้งสูง หรือเหมาะกับความเสี่ยง รวมถึงลงทุนในกิจการที่มีความน่าเชื่อถือจะช่วยลดโอกาสความเสียหายจากการผิดนัดชำระหนี้ได้ในระดับหนึ่ง

ดอกเบี้ยสูงไม่ได้แปลว่าน่าลงทุน

หลายครั้งที่จะเห็นโฆษณาตามสื่อต่างๆ ที่ประกาศว่า ตราสารหนี้บริษัทนั้นจ่ายดอกเบี้ย 6% ต่อปี บริษัทนี้จ่าย 7.25-8% ต่อปี หลายคนก็ตาลุกวาวอยากเข้าไปซื้อ เพราะดอกเบี้ยที่สุดจูงใจของตราสารหนี้ที่บริษัทเหล่านี้ให้นั้นสูงกว่าการฝากธนาคารหลายเท่า

แต่ช้าก่อน... เห็นดอกเบี้ยสูงๆ แบบนี้ บางทีก็มีความเสี่ยงที่เราอาจไม่ได้ดอกเบี้ย หรืออาจไม่ได้เงินคืนได้เหมือนกัน ดังนั้น เมื่อเห็นดอกเบี้ยสูงๆ ต้องมีอันดับเครดิตเรตติ้งที่ดีด้วยถึงจะน่าสนใจลงทุน ซึ่งอันดับเครดิตเรตติ้งจะเป็นตัวสะท้อนความมั่นคงแข็งแกร่งของบริษัทว่ามีมากน้อยขนาดไหน มีศักยภาพพอที่จะจ่ายเงินต้นคืนหรือเปล่า

การลงทุนในตราสารหนี้ ผู้ออกจะระบุเงื่อนไขการชำระดอกเบี้ยและการไถ่ถอนอย่างชัดเจน หากเราถือครองจนครบกำหนดอายุของตราสารหนี้ ก็จะไม่มีความเสี่ยงจากความผันผวนของราคา แต่ถ้าเราต้องการขายตราสารหนี้ก่อนครบกำหนดอายุ อัตราดอกเบี้ยในตลาดจะมีผลต่อราคาตราสารหนี้ขึ้นมาทันที

เมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลง ราคาตราสารหนี้จะเพิ่มขึ้น และเมื่ออัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ราคาตราสารหนี้จะลดลง ความสัมพันธ์ของราคาตราสารหนี้กับอัตราดอกเบี้ยจะสวนทางกัน ดังนั้น เมื่อดูราคาตราสารหนี้ในตลาดรองจะพบราคาที่แตกต่างกัน สูงกว่าราคาหน้าตั๋วบ้าง ต่ำกว่าบ้าง ขึ้นอยู่กับอัตราดอกเบี้ยในท้องตลาด จึงต้องนำราคาและผลตอบแทนมาเปรียบเทียบถึงความคุ้มค่าด้วย 

การลงทุนในตราสารหนี้นั้นไม่ยาก เพียงแต่ต้องศึกษาถึงความเสี่ยง และความแข็งแกร่งของผู้ที่ออกตราสารหนี้ ว่าแข็งแกร่งเพียงพอจะจ่ายดอกเบี้ยคืนเงินต้นได้หรือเปล่า มีอันดับเครดิตเรทติ้งที่น่าเชื่อถือหรือไม่ เพียงเท่านี้ก็ลงทุนในตราสารหนี้ได้อย่างสบายใจแล้ว

 

ที่มา: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย