ค่าเงินบาทกลับมาปิดตลาดวันที่ 3เม.ย.ที่ระดับ 34.31 บาทต่อดอลลาร์ฯ (หลังแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบเกือบ 2 เดือนครึ่งที่ 34.44 บาทต่อดอลลาร์ฯ) เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 34.16 บาทต่อดอลลาร์ฯ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า เงินบาทอ่อนค่าลงตามเงินหยวนและอีกหลายสกุลในภูมิภาคหลังประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศภาษีตอบโต้กับหลายประเทศสูงกว่าที่คาดการณ์ก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ เงินบาทยังมีปัจจัยลบในช่วงบ่ายจากการปรับตัวลงของราคาทองคำในตลาดโลก
(ตามแรงขาย หลังพุ่งขึ้นทำ all-time highs หลายรอบในช่วงหลายวันก่อนหน้า) สำหรับทิศทางฟันด์โฟลว์ในวันนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทย 2,100 ล้านบาท แต่ยังคงซื้อสุทธิพันธบัตรไทยต่อเนื่องที่ 3,835 ล้านบาท
ส่วนค่าเฉลี่ย Indicative forward points ของธุรกรรมระยะ 3 เดือนสำหรับผู้ประกอบการที่มีรายได้ 50-200 ล้านบาทต่อปี รายงานข้อมูล ณ 10.00 น. วันที่ 3 เมษายน 2568 จากเว็บไซต์ ธปท. อยู่ที่ -23.92 สำหรับผู้ส่งออก (ขายเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า) และที่ -20.67 สำหรับผู้นำเข้า (ซื้อเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า)
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ 34.20-34.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สัญญาณของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศคู่ค้า สัญญาณฟันด์โฟลว์ของต่างชาติ และทิศทางราคาทองคำในตลาดโลก รวมถึงข้อมูลตลาดแรงงานสหรัฐฯ โดยเฉพาะตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงานเดือนมี.ค.