MTS Goldแม่ทองสุก เปิดเผยถึงทิศทางแนวโน้มราคาทองคำสัปดาห์นี้ (7-11 เม.ย. 68) กับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ราคาทองคำตลาดโลกและราคาทองไทยยังคงเคลื่อนตัวในลักษณะ Sideways หรือปรับฐานในระยะสั้น ซึ่งคาดว่าหากราคาทองคำไม่หลุดระดับ 3,054 เหรียญ
โดยเป็นแนวรับที่สำคัญ นักวิเคราะห์คาดว่าตลาดทองคำยังมีความสมบูรณ์อยู่ ขณะเดียวกันหากภายใน 3-4 วันนี้ ราคาทองคำไม่หลุดระดับ 3,100 เหรียญลงมา เชื่อว่าราคาทองคำจะกลับไปทำจุดสูงสุดเดิมที่ระดับ 3,165 เหรียญ และเป็นแนวโน้มขาขึ้นต่อไป ท่ามกลางความตึงเครียดของสงครามการค้า
อย่างไรก็ดี ล่าสุดปธน.ทรัมป์ประกาศให้มีการเรียกเก็บภาษีศุลกากรพื้นฐานในอัตรา 10% จากทุกประเทศ ในขณะที่จะเก็บภาษีตอบโต้เพิ่มเติมกับคู่ค้าของสหรัฐฯ บางประเทศ
ซึ่งรวมถึงจีนที่ถูกเรียกเก็บ 34%, อินเดีย 26%, เกาหลีใต้ 25%, ญี่ปุ่น 24% และสหภาพยุโรป (EU) 20%
ส่วนประเทศในอาเซียนถูกเรียกเก็บภาษีตอบโต้ถ้วนหน้าเช่นกัน นำโดยกัมพูชา 49%, ลาว 48% เวียดนาม 46%, เมียนมา 44%, ไทย 36%, อินโดนีเซีย 32%, บรูไน 24%, มาเลเซีย 24% ฟิลิปปินส์ 17% และสิงคโปร์ 10% ซึ่งปธน.ทรัมป์ประกาศว่าภาษีศุลกากรแบบครอบจักรวาลจะมีผลบังคับใช้ในวันเสาร์ที่ 5 เม.ย.
ขณะที่ภาษีศุลกากรตอบโต้ซึ่งมุ่งเป้าไปที่คู่ค้าของสหรัฐฯ ประมาณ 60 ประเทศนั้น จะมีผลบังคับใช้ในวันพุธที่ 9 เม.ย. ซึ่งต้องติดตามอย่างใกล้ชิด
สำหรับสัปดาห์นี้ MTS GOLD แม่ทองสุก คาดว่าราคาทองคำตลาดโลกจะมีแนวรับหลักที่ระดับ 3,040 เหรียญ และแนวรับถัดไปที่ระดับ 3,000 เหรียญ และมีแนวต้านหลักอยู่ที่ระดับ 3,100 เหรียญ และแนวต้านถัดไปที่ระดับ 3,130 เหรียญ
ด้านราคาทองไทยจะมีแนวรับที่ระดับ 49,500 บาทต่อบาททองคำ และแนวรับถัดไปที่ระดับ 49,000 บาทต่อบาททองคำ และแนวต้านหลักที่ระดับ 50,300 บาทต่อบาททองคำ และแนวต้านถัดไปที่ระดับ 50,600 บาทต่อบาททองคำ
ปัจจัยที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ ประกอบด้วย
ราคาทองคำล่าสุด ประกอบด้วย