ค่าเงินบาทปิดตลาดวันที่ 10เม.ย.ที่ระดับ 34.11 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 34.56 บาทต่อดอลลาร์ฯ
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่าค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นสอดคล้องกับทิศทางของเงินหยวนและสกุลเงินอื่นๆ ในเอเชีย รวมถึงการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำในตลาดโลก ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ เผชิญแรงขายต่อเนื่องหลังตลาดคลายความกังวลลงบางส่วน
หลังปธน. โดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ประกาศชะลอการขึ้นภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ให้กับทุกประเทศ (ยกเว้นจีน) เป็นเวลา 90 วัน สำหรับทิศทางฟันด์โฟลว์ในวันนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย 957.8 ล้านบาท และมีสถานะอยู่ในฝั่ง Net Inflows เข้าตลาดพันธบัตรไทย 469 ล้านบาท
ส่วนค่าเฉลี่ย Indicative forward points ของธุรกรรมระยะ 3 เดือนสำหรับผู้ประกอบการที่มีรายได้ 50-200 ล้านบาทต่อปี รายงานข้อมูล ณ 10.00 น. วันที่ 10 เมษายน 2568 จากเว็บไซต์ ธปท. อยู่ที่ -23.36 สำหรับผู้ส่งออก (ขายเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า) และที่ -20.20 สำหรับผู้นำเข้า (ซื้อเงินดอลลาร์ฯ ล่วงหน้า)
สำหรับกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันพรุ่งนี้ ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ 34.00-34.30 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศคู่ค้า ทิศทางเงินหยวนและราคาทองคำในตลาดโลก สัญญาณฟันด์โฟลว์ของต่างชาติ และตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ประกอบด้วย ดัชนีราคาผู้ผลิตเดือนมี.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนเม.ย.