สภาทองคำโลก เปิดเผยว่า ราคาทองคำสร้างสถิติใหม่อีกครั้งในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยปิดที่ระดับ 3,115 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 9.9% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ตามรายงานล่าสุดจากสภาทองคำโลก (World Gold Council)
ปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนราคาทองให้พุ่งสูงขึ้นมาจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยเฉพาะจากการแข็งค่าของเงินยูโร และความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้นจากความกังวลเรื่องภาษีนำเข้า
นอกจากนี้ การซื้อกองทุน ETF ทองคำยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในสหรัฐฯ ที่มีเงินไหลเข้าสุทธิ 6 พันล้านดอลลาร์ (67 ตัน) ตามด้วยยุโรปและเอเชียที่มีเงินไหลเข้าประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์ในแต่ละภูมิภาค
ธนาคารกลางทั่วโลกยังคงเป็นผู้ซื้อที่แข็งแกร่ง โดยไม่มีสัญญาณว่าจะชะลอการซื้อทองคำแม้ราคาจะปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยสนับสนุนราคาทองคำในระยะยาว
สภาทองคำโลกระบุว่า สภาพแวดล้อมปัจจุบันยังคงสนับสนุนการเพิ่มขึ้นของราคาทองคำต่อไป โดยมีปัจจัยสนับสนุนดังนี้
อย่างไรก็ตาม รายงานระบุว่ามีความเสี่ยงบางประการต่อราคาทองคำหลังจากการปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว เช่น การชะลอการซื้อของธนาคารกลาง อุปสงค์ของผู้บริโภคที่อาจลดลงเนื่องจากราคาสูง และความเสี่ยงจากการขายทองคำเพื่อรับมือกับการเรียกหลักประกันเพิ่ม (margin calls) ในกรณีที่เกิดวิกฤตสภาพคล่อง
อีกปัจจัยที่ควรระวังคือความกังวลด้านภูมิรัฐศาสตร์และนโยบายที่อยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะความไม่แน่นอนเกี่ยวกับภาษีนำเข้าและผลกระทบต่อความผันผวนของตลาด ซึ่งเป็นปัจจัยที่อาจเพิ่มพรีเมียมให้กับราคาทองคำในปัจจุบัน
ในภาพรวม สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจมหภาคปัจจุบันแตกต่างจากช่วงที่ราคาทองคำทำจุดสูงสุดในอดีต และยังคงสนับสนุนการเพิ่มขึ้นของราคาทองคำต่อไป