นายกษาปณ์ เงินรวง รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธ.ก.ส.ได้เริ่มโอนเงินประกันรายได้ ตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายน 2565 โดยโอนเงินงวดที่ 1 - 8 ให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวไปแล้วจำนวน 2.53 ล้านครัวเรือน เป็นเงิน 7,254.99 ล้านบาท
สำหรับเกษตรกรที่แจ้งวันที่คาดว่าจะเก็บเกี่ยวในช่วงวันที่ 3 ธันวาคมถึง 9 ธันวาคม 2565 ธ.ก.ส. จะโอนเงินส่วนต่างระหว่างราคาประกันรายได้กับราคาเกณฑ์กลางอ้างอิง (งวดที่ 9 และงวดที่ 1 - 8 เพิ่มเติม) เข้าบัญชีเกษตรกรในวันที่ 15 ธันวาคม 2565 จำนวนกว่า 48,336 ครัวเรือน เป็นจำนวนเงิน 150.35 ล้านบาท
ทั้งนี้มติคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2565 เห็นชอบให้ดำเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2565/66 กรอบวงเงินงบประมาณตามกรอบมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 จำนวน 18,700.13 ล้านบาท
ขณะที่มติคณะกรรมการ ธ.ก.ส. เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2565 เห็นชอบให้ ธ.ก.ส. ดำเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว 5 ชนิด ในพื้นที่เพาะปลูกข้าวทั่วประเทศ ที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร ประมาณ 4.68 ล้านครัวเรือน ได้แก่
ทั้งนี้ เกษตรกรจะต้องขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2565/66 กับกรมส่งเสริมการเกษตร และต้องแจ้งวันที่คาดว่าจะเก็บเกี่ยวเพื่อใช้เป็นข้อมูลช่วงเวลาที่เกษตรกรจะได้รับสิทธิชดเชย โดยกรมส่งเสริมการเกษตรจะจัดส่งข้อมูลการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าว จำแนกตามช่วงเวลาที่เก็บเกี่ยวและคำนวณปริมาณผลผลิต
โดยใช้พื้นที่ทั้งหมดที่ขึ้นทะเบียนปลูกข้าวแต่ละชนิดคูณผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่เป็นปริมาณผลผลิตที่ต้องชดเชยส่งให้กับ ธ.ก.ส. เพื่อประมวลผลและดำเนินการจ่ายเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรงภายใน 3 วัน นับจากวันที่ได้รับราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงในแต่ละรอบจากคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว