"ช้อปดีมีคืน 2566" หนึ่งในมาตรการของขวัญปีใหม่ ซึ่งคณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.65 โดยกรมสรรพากร ประเมินว่าจะมีประชาชนเข้าร่วมโครงการ 1.4 ล้านคน แม้จะทำให้รัฐต้องสูญเสียรายได้ประมาณ 6,200 ล้านบาท แต่ส่งผลดีให้เกิดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นกว่า 42,000 ล้านบาท กระตุ้นให้เศรษฐกิจ (จีดีพี) ขยายตัวเพิ่ม 0.12 % ในปี 2566
รายละเอียดโครงการ"ช้อปดีมีคืน 2566" เปิดให้ประชาชนนำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้าและบริการ มาลดหย่อนภาษีได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง วงเงินสูงสุด 40,000 บาทต่อคน
ระยะเวลา "ช้อปดีมีคืน"
- เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 15 กุมภาพันธ์ 2566 เพื่อใช้สิทธิในการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาปี 2566 โดยยื่นแบบภาษีฯในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม 2567
เงื่อนไขสินค้าและบริการที่ใช้ลดหย่อนภาษี "ช้อปดีมีคืน 2566 " มีดังนี้
- 1.ค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการ จำนวนไม่เกิน 30,000 บาท จะต้องมีใบกำกับภาษีเต็มรูปในรูปแบบกระดาษหรือใบกำกับภาษีเต็มในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์และใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice & e-Receipt) ของกรมสรรพากร
- 2.ค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการ จำนวนไม่เกิน 10,000 บาท จากส่วนที่เกินจากข้อ 1. จะต้องมีใบกำกับภาษีเต็มรูปในรูปแบบเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ e-Tax Invoice หรือ e-Receipt แล้วแต่กรณีเท่านั้น
ค่าสินค้าหรือค่าบริการที่ไม่สามารถใช้สิทธิช้อปดีมีคืน ปี 2566 มีดังนี้
- ค่าสุรา เบียร์ และไวน์
- ค่ายาสูบ
- ค่าซื้อรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเรือ
- ค่ารถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเรือ
- ค่าบริการหนังสือพิมพ์และนิตยสารที่อยู่ในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบอินเทอร์เน็ต
- ค่าบริการจัดนำเที่ยวที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจนำเที่ยวตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจ
- ค่าบริการจัดนำเที่ยวและมัคคุเทศน์
- ค่าที่พักในโรงแรมที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม
- ค่าสาธารณูปโภค ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ค่าบริการสัญญาณโทรศัพท์ และค่าบริการสัญญาณอินเทอร์เน็ต
- ค่าบริการที่มีข้อตกลงการให้บริการและผู้รับบริการสามารถใช้บริการดังกล่าวนอกเหนือจากระยะเวลาตามที่กำหนดไว้ (วันที่ 1 มกราคม 2566 ถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566) เช่น ค่าสมาชิกต่าง ๆ
- ค่าประกันวินาศภัย
ช้อปดีมีคืน 2566 ใช้สิทธิเต็มวงเงิน 40,000 บาท มีสิทธิได้คืนภาษีสูงสุดเท่าไร
- เงินได้สุทธิต่อปี 0 - 150,000 บาท ได้รับการยกเว้นภาษี จึงไม่ได้รับประโยชน์จากโครงการ"ช้อปดีมีคืน "
- เงินได้สุทธิต่อปี 150,001 - 300,000 บาท อัตราภาษีเงินได้ 5% ช้อปเต็มจำนวน 40,000 บาท มีสิทธิได้คืนภาษีสูงสุด 2,000 บาท
- เงินได้สุทธิต่อปี 300,001 - 500,000 บาท อัตราภาษีเงินได้ 10% ช้อปเต็มจำนวน 40,000 บาท มีสิทธิได้คืนภาษีสูงสุด 4,000 บาท
- เงินได้สุทธิต่อปี 500,001 - 750,000 บาท อัตราภาษีเงินได้ 15% ช้อปเต็มจำนวน 40,000 บาท มีสิทธิได้คืนภาษีสูงสุด 6,000 บาท
- เงินได้สุทธิต่อปี 750,001 - 1,000,000 บาท อัตราภาษีเงินได้ 20% ช้อปเต็มจำนวน 40,000 บาท มีสิทธิได้คืนภาษีสูงสุด 8,000 บาท
- เงินได้สุทธิต่อปี 1,000,001 - 2,000,000 บาท อัตราภาษีเงินได้ 25% ช้อปเต็มจำนวน 40,000 บาท มีสิทธิได้คืนภาษีสูงสุด 10,000 บาท
- เงินได้สุทธิต่อปี 2,000,001 - 5,000,000 บาท อัตราภาษีเงินได้ 30% ช้อปเต็มจำนวน 40,000 บาท มีสิทธิได้คืนภาษีสูงสุด 12,000 บาท
- เงินได้สุทธิต่อปี 5,000,001 บาทขึ้นไป อัตราภาษีเงินได้ 35% ช้อปเต็มจำนวน 40,000 บาท มีสิทธิได้คืนภาษีสูงสุด 14,000 บาท
จากที่กล่าวข้างต้น จะเห็นได้ว่ามาตรการ"ช้อปดีมีคืน 2566 " เหมาะสำหรับมนุษย์เงินเดือนที่มีรายได้สูงและเป็นผู้เสียภาษียิ่งเสียในอัตราสูง ยิ่งได้ประโยชน์ เพราะสามารถนำมาลดหย่อนภาษีและได้สิทธิคืนภาษีซึ่งช่วยประหยัดภาษีได้มากกว่า