นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ ได้เห็นชอบปรับปรุงแผนการบริหารหนี้สาธารณะ ประจำปีงบประมาณ 66 ครั้งที่ 1 ซึ่งจะมีการเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบต่อไป โดยได้มีการปรับเพิ่มกรอบวงเงินค้ำประกันเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงอีก 80,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ หากรวมกับก่อนหน้านี้ที่กระทรวงการคลังได้ค้ำประกันไปแล้ว 30,000 ล้านบาท รวมเป็น 110,000 ล้านบาท ส่งผลให้แผนบริหารหนี้สาธารณะปีงบ 66 จะมีสัดส่วนหนี้ต่อจีดีพีเพิ่มขึ้นจาก 60.43% เป็น 61.41% ตามกรอบการบริหารหนี้สาธารณะที่กำหนดไว้ไม่เกิน 70% ต่อจีดีพี
“กองทุนน้ำมันได้ขอให้คลังค้ำประกันเต็มวงเงินตามที่พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ผ่อนผันให้กระทรวงการคลังค้ำประกันการชำระหนี้ของสำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ. 2565 วงเงิน 150,000 ล้านบาท แต่เราพิจารณาดูแล้วว่าไม่จำเป็นต้องขอวงเงินในงวดเดียว จึงเพิ่มให้อีก 80,000 ล้านบาท”
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังประเมินว่า ขณะนี้ราคาน้ำมันก็ปรับลดลงแล้ว และกองทุนก็สามารถจัดเก็บรายได้เข้ามาเพิ่มสภาพคล่องกองทุนฯได้บ้างแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องเพิ่มกรอบวงเงินค้ำประกันเต็มเพดานทั้งหมดในคราวเดียว อย่างไรก็ตาม หากในอนาคตมีความจำเป็นต้องใช้วงเงินกู้เพิ่มเติม กระทรวงการคลังก็สามารถทบทวนปรับแผนบริหารหนี้ใหม่ได้
ส่วนรายละเอียดแผนบริหารหนี้สาธารณะ ด้านอื่นไม่มีการปรับเปลี่ยนอะไร โดยการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลปีงบประมาณ 66 วงเงิน 695,000 ล้านบาท ยังคงไว้เท่าเดิม เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจขณะนี้เริ่มฟื้นตัวต่อเนื่อง อีกทั้ง กระทรวงการคลังยังสามารถจัดเก็บรายได้ตามเป้าหมาย โดยเฉพาะภาคท่องเที่ยว ที่ปีนี้น่าจะมีชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาไทยไม่น่าจะต่ำกว่า 20 ล้านคน