นายลวรณ แสงสนิท ประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า จากผลการจำหน่ายสลากดิจิทัลในงวดที่ผ่านมา ใช้เวลาจำหน่ายหมดภายใร 10 วัน มีผู้ซื้อ 1.8 ล้านคน ถือว่าเป็นกระแสตอบรับที่ดี แต่มองว่ายังขายหมดเร็วเกินไป ดังนั้นในปี 2566 สนง.สลาฯก ตั้งเป้าหมายว่า ภายในเดือนธ.ค.66 จะมีการเพิ่มสลากดิจิทัลเป็น 30 ล้านใบ โดยจะค่อยๆ ทยอยขึ้นทีละงวดตามความเหมาะสม
ส่วนแผนในระยะยาว 3 ปีข้างหน้า จะมีการเพิ่มสลากดิจิทัลให้เป็นครึ่งหนึ่งของจำนวนสลากทั้งหมด คือในปี 2567 ตั้งเป้าหมายมี สลากดิจิทัล 40 ล้านใบ และในปี 2568 เพิ่มเป็น 50 ล้านใบ ทั้งนี้ ผลการดำเนินการแก้ปัญหาสลากดิจิทัลปัจจุบัน มีผลที่เห็นได้ชัด จากจำนวนสายร้องเรียนที่เข้ามาถึง สำนักงานสลากเรื่องขายเกินสลากราคาลดลงถึง80% สะท้อนให้เก็นว่าการแก้ไขปัญหาทำได้จริง
ส่วนสลากดิจิทัลที่จะมาเพิ่มให้ครบ 30 ล้านใบนั้นจะมาจาก 4 ทาง ได้แก่
1.จากการตัดสิทธิโควตาผู้ค้าที่กระทำผิดกติกา ไม่ว่าตรวจค้นพบว่าขายต่อให้แพลตฟอร์มออนไลน์ และตรวจสอบจาการนำสลากมาขึ้นรางวัล
2.ทางสมัครใจ โดยเมษายนนี้ สำนักงานสลากได้ออกเกณฑ์ใหม่ โดยจะลดจำนวนสลาก ผู้ค้าซื้อจองได้รับเหลือคนละ3 เล่มต่องวด แต่หากผู้ค้าซื้อจองรายไหนต้องการสลากเพิ่ม การให้ทางเลือกสมัครจำหน่ายสลากดิจิทัล ก็ได้รับสลาก5 เล่มต่องวด
3.ผลิตภัณฑ์ใหม่ แอล6 คือสลากที่ไม่ต้องพิมพ์เป็นใบ แต่ขายในรูปแบบออนไลน์ได้ ซึ่งอยู่ระหว่างการนำเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และจะนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป
และ 4.จากโควตามูลนิธิ องค์กรการกุศล ที่ให้ผู้ค้ามาเข้าร่วมจำหน่ายสลากดิจิทัลโดยสมัครใจ