นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ได้มีการลงนามโครงการยกระดับผู้ประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมยางพารา โดย EXIM BANK และ บสย.จะเข้ามาเติมทุนให้แก่ผู้ประกอบการรวมทั้งจะดึงธนาคารกรุงไทย และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เข้ามาร่วมเติมทุนในห่วงโซ่อุปทานของธุรกิจยางพารา และเข้ามาช่วยส่งเสริมด้านการวิจัย พัฒนาเพิ่มคุณภาพของยางพาราแข่งขันในตลาดโลก
"โครงการความร่วมมือดังกล่าว จะเริ่มต้นนำร่องกับนิคมอุตสาหกรรมหลักชัยเมืองยาง จังหวัดระยอง"
สำหรับอุตสาหกรรมยางพารานั้น สร้างรายได้เข้าประเทศราว 7 แสนล้านบาทต่อปี แต่การต่อยอดคุณภาพการผลิตเพื่อการส่งออกนั้น ยังมีปัญหาเรื่องสภาพคล่องที่ผู้ประกอบการยังไม่สามารถเข้าถึงแหล่งทุนได้ โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็กยัง ดังนั้น ในส่วนของแบงก์รัฐจะต้องเข้ามาช่วยสนับสนุนโดยเฉพาะในห่วงโซ่อุปทานของผู้ผลิต ซึ่งจะช่วยทำให้ยางมีคุณภาพและราคาดี
ทั้งในมิติของการสร้างงาน เนื่องจากเป็นอุตสาหกรรมที่มีเกษตรกรและผู้ที่ทำธุรกิจเกี่ยวข้องมากถึง 1.7 ล้านครัวเรือนหรือกว่า 6 ล้านคนทั่วประเทศ และในมิติของการสร้างรายได้เข้าประเทศ จากการส่งออกยางพาราแปรรูปขั้นต้นและการต่อยอดไปสู่ผลิตภัณฑ์ยางพาราในระดับปลายน้ำรวมเป็นมูลค่าส่งออกสูงถึงกว่าปีละ 6.8 แสนล้านบาท
นายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) กล่าวว่า ธนาคารพร้อมเติมทุนให้ผู้ประกอบการยางพาราโดยไม่จำกัดวงเงิน โดยอัตราดอกเบี้ยสำหรับรายใหญ่ รายกลางและรายเล็กจะอยู่ในอัตรา 6-7%ต่อปี จากปัจจุบันอยู่ที่ 12-18% ต่อปี
ทั้งนี้ หน่วยงานที่เข้าร่วมการลงนามในโครงการดังกล่าว ได้แก่