การประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยดังกล่าว เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 11 นับตั้งแต่ที่เฟดเริ่มวัฏจักรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.2565 ส่งผลให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 5.25%
นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด แถลงข่าวภายหลังการประชุมว่า การตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายการเงินในอนาคตนั้น เฟดจะตัดสินใจในการประชุมเป็นรายครั้ง รวมทั้งพิจารณาถึงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในเวลานั้น โดยเฟดจะจับตาข้อมูลเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด แต่การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้อาจจะไม่เกิดขึ้น
ในระหว่างการแถลงข่าว นายพาวเวลไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกหากจำเป็น โดยกล่าวว่า "มีความเป็นไปได้ว่าเราอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในการประชุมเดือนก.ย. หากข้อมูลเศรษฐกิจในช่วงเวลาดังกล่าวสนับสนุนให้เราดำเนินการเช่นนั้น และในขณะเดียวกันก็มีความเป็นไปได้ที่เราอาจเลือกที่จะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. หากการดำเนินการดังกล่าวสอดคล้องกับจุดยืนด้านนโยบายของเรา"
ขณะที่โกลด์แมน แซคส์ ให้ความเห็นว่าถ้อยแถลงของเฟดไม่ได้เป็นการส่งสัญญาณชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ยในอนาคต แต่คาดการณ์ว่าจะมีการพักการปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนก.ย.
ก่อนหน้านี้ว่า ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมรอบนี้ และจะยุติวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้เป็นครั้งสุดท้ายในปีนี้ และจะคงอัตราดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปี ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า
ไทม์ไลน์เฟดขึ้นดอกเบี้ย 11 ครั้ง ตั้งแต่ มี.ค.2565
การดำเนินการด้านอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปี 2565 เป็นดังนี้
การดำเนินการด้านอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปี 2566 เป็นดังนี้
สำหรับการประชุมเฟดในรอบต่อไปในปีนี้ มีดังนี้