สองแบงก์ใหญ่ SCBX -HSBC ทุ่มลงทุนเทคโนโลยี AI

28 มี.ค. 2567 | 12:38 น.
อัปเดตล่าสุด :28 มี.ค. 2567 | 12:56 น.

SCBX -HSBC เดินหน้าลงทุนเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ AI หวังเสริมศักยภาพการให้บริการ -สร้างรายได้ และประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้า

วันที่ 28 มีนาคม 2567 นาย เดนนิส ทอร์สเทน ทรอว์นิทเชค ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด(มหาชน) กล่าวในงานสัมมนา UK-Thailand Financial Conference ที่จัดโดย  The Nation ภายใต้หัวข้อ The Next Edition of Financial Services: Cybersecurity and Generative Al โดยระบุว่า กลุ่ม SCBX มุ่งเป็นองค์กรแรกที่จะใช้ AI เป็นหลัก และตั้งเป้าหมายเปลี่ยนแหล่งรายได้ในอีก 5 ปีต่อจากนี้ จากทั้งทางตรงและทางอ้อมประมาณ 75% จะต้องมาจาก AI 

 

จากเป้าหมายดังกล่าว ทำให้ในปีที่ผ่านมา SCBX ใช้เงินทุนในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานกว่า 50% ของเงินลงทุนทั้งหมดเพื่อลงทุนในหลายๆโปรเจกต์ที่เกี่ยวกับ AI และ Cybersecurity ทั้งการทำวิจัยร่วมกับสถาบันการศึกษา ทั้งนี้ คาดว่าจะเห็นผลลัพธ์ จากการลงทุนในอีก 2-3 ปี อย่างชัดเจนในรูปแบบของผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ล้ำสมัย เพื่อเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีทางการเงิน ในวันที่ต้นทุนของเทคโนโลยีถูกลงเรื่อยๆ

นาย เดนนิส ทอร์สเทน ทรอว์นิทเชค ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด(มหาชน)
 

"สิ่งที่ค้นพบ คือ AI เข้ามามีผลกระทบอย่างมากในการเปลี่ยนแปลงธุรกิจและวิธีการทํางาน ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงขั้นแรกสำหรับบริษัทคือการเริ่มต้นจาก“ผู้นำ” แม้ว่าในขณะนี้หลายบริษัทกำลังเผชิญกับความกลัวที่ว่า AI จะเข้ามาแทนที่มนุษย์ แต่ถ้าเรายอมรับการเปลี่ยนแปลงเหมือนกับกลุ่ม SCBX ที่ใช้ AI ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น ใช้เวลาเพียงแค่ 3 วันในการเขียนแดชบอร์ดด้วยการใช้ AI จากที่ต้องใช้เวลาเกือบ 1 เดือน"

 

ทั้งนี้กลุ่ม SCBX ได้พัฒนาเทคโนโลยีเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจมาโดยตลอด จึงให้ความสำคัญกับ บริษัท เอสซีบี เดต้า เอกซ์ จำกัด (SCB DataX) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านการวิเคราะห์ข้อมูลทางธุรกิจเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันผ่านการใช้ประโยชน์จาก Big Data, Data Science รวมทั้ง AI เพราะ AI ต้องใช้ข้อมูลเพื่อพัฒนาการเรียนรู้

 

อย่างไรก็ตาม มิจฉาชีพ หรือการหลอกลวงเติบโตไปพร้อมกับเทคโนโลยี ดังนั้นจึงต้องมีการปรับปรุงตลอดเวลาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาชญากรรมทางไซเบอร์ (Cybercrime) ด้วยวิธีการยืนยันตัวตนด้วย National Digital ID (NDID) เพื่อเพิ่มความถูกต้องและลดความเสี่ยงให้กับลูกค้าในการถูกขโมยข้อมูลส่วนตัวในทุกภาคส่วนของธุรกิจในกลุ่ม SCBX ข้อมูลการขอสินเชื่อบัตรเครดิตในการ์ดเอ็กซ์ ไปจนถึงข้อมูลสำหรับสั่งสินค้าและบริการในแอปพลิเคชันโรบินฮูด
 

นาย เดนนิส ทอร์สเทน ทรอว์นิทเชค ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด(มหาชน)

ส่วนทางด้านนายจอห์น คอร์โดวา ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย ธนาคารเอชเอสบีซี ประเทศไทย (HSBC Thailand) กล่าวว่า บริษัทฯได้ใช้เงินลงทุนจำนวนมากเพื่อพัฒนา AI เพื่อช่วยเสริมประสบการณ์ให้แก่ลูกค้า ซึ่งคิดเป็นประมาณ 50-60% ของเงินลงทุนสำหรับการพัฒนาเทคโนโลยีและ AI รวมทั้งการทำงานร่วมกูเกิล ไมโครซอฟท์ พร้อมกับลงทุนพัฒนาทีมเทคโนโลยีของบริษัท ให้พร้อมสำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่างๆให้ลูกค้าไว้วางใจ

 

ปัจจุบันธนาคาร HSBC ตั้งอยู่ใน 62 ประเทศทั่วโลกและกำลังก้าวสู่เทคโนโลยีใหม่อย่าง AI และใช้เพื่อป้องการการโจมตีผ่านอีเมลของบริษัทที่เรียกว่า Phishing Email หรืออีเมลหลอกลวงที่มิจฉาชีพส่งมาเพื่อขโมยข้อมูลส่วนตัว

 

นายคอร์โดวา กล่าวเพิ่มเติมว่า HSBC ยืนหยัดในจุดยืนที่ว่าสติปัญญาของมนุษย์ยังเป็นผู้ควบคุมระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเป็นผู้กำหนดทิศทางการลงทุนในเทคโนโลยี ซึ่งในมุมมองนี้ ซึ่งสาเหตุของความผิดพลาดทางเทคโนโลยีและการถูกโจมตีทางไซเบอร์ AI Deepfake(เทคโนโลยีสร้างวิดีโอปลอมที่เหมือนจริง) และ Phishing Email ปัญหาเหล่านี้ เกิดขึ้นจากการลงทุนด้านเทคโนโลยีที่ไม่เพียงพอ หรือละเลยการลงทุนในระบบความปลอดภัย และการควบคุมที่มีประสิทธิภาพ

 

"คำว่า “ข้อมูล” เป็นหัวใจสำคัญสำหรับธนาคาร ดังนั้น HSBC จึงให้ความสำคัญกับการปกป้องข้อมูลอย่างจริงจัง โดยเริ่มตั้งแต่แนวทางการเก็บรักษาข้อมูลของ “บุคคลที่สาม” ที่ทำงานร่วมกับธนาคาร ซึ่งจะต้องมีวิธีการเก็บข้อมูลที่สอดคล้องกับมาตรฐานของ HSBC "

 

ด้วยนโยบายที่เข้มงวดนี้ HSBC จึงไม่มีประวัติการรั่วไหลของข้อมูล ทำให้สามารถรักษามาตรฐานไว้ได้ดีเยี่ยม และเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าว่าข้อมูลของพวกเขาปลอดภัย

นายจอห์น คอร์โดวา ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย ธนาคารเอชเอสบีซี ประเทศไทย (HSBC Thailand)