นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวปาฐกถาที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดวานนี้ (3 เม.ย.) เนื้อหาส่วนหนึ่งระบุว่า เฟดกำลังใช้เครื่องมือที่มีอยู่ ในการทำให้ เงินเฟ้อ ปรับตัวลงสู่ระดับ 2% ซึ่งเป็นระดับเป้าหมาย ขณะที่พยายามรักษาความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจสหรัฐเอาไว้ด้วยเช่นกัน เขาย้ำว่า เฟดไม่ได้เร่งรีบในการผ่อนคลายนโยบายการเงิน
"เราไม่ได้คาดหวังว่าเป็นเรื่องเหมาะสมที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย จนกว่าเราจะมีความเชื่อมั่นมากขึ้นว่าเงินเฟ้อกำลังปรับตัวลงสู่ระดับ 2% อย่างยั่งยืน"
นอกจากนี้ ยังกล่าวว่า เมื่อพิจารณาถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจและความคืบหน้าเกี่ยวกับเงินเฟ้อจนถึงขณะนี้ เฟดจะใช้ข้อมูลปัจจุบัน เป็นปัจจัยชี้นำหลักในการตัดสินใจด้านนโยบาย
"ตัวเลขการจ้างงานและเงินเฟ้อในระยะนี้ ต่างก็อยู่สูงกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้ แต่ข้อมูลดังกล่าวไม่ได้เปลี่ยนแปลงภาพรวมอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งยังคงบ่งชี้การขยายตัวทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ตลาดแรงงานที่มีการปรับสมดุล ขณะที่เงินเฟ้อกำลังปรับตัวลงสู่ระดับ 2% แม้บางครั้งอาจไม่ต่อเนื่อง" นายพาวเวลล์กล่าว
ถ้อยแถลงของประธานเฟดวานนี้(3 เม.ย.) สอดคล้องกับสิ่งที่เขากล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (29 มี.ค.) ซึ่งเขาได้แสดงความเห็นเอาไว้ หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ว่า ถึงแม้ดัชนี PCE จะสอดคล้องกับที่เฟดคาดการณ์เอาไว้ แต่เฟดก็จะไม่รีบปรับลดอัตราดอกเบี้ย ขณะที่เศรษฐกิจมีการขยายตัวที่แข็งแกร่ง และเงินเฟ้ออยู่สูงกว่าเป้าหมายของเฟด
"เราจำเป็นต้องเห็นความคืบหน้ามากขึ้นกว่านี้เกี่ยวกับเงินเฟ้อ ก่อนที่จะทำการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมา เนื่องจากการตัดสินใจเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ย ถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญมาก ทำให้เฟดต้องใช้ความระมัดระวังในเรื่องนี้"
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 5.25-5.50% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 23 ปี แต่ก็ได้ส่งสัญญาณว่า เฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปี 2567 นี้ โดยจะปรับลดครั้งละ 0.25% รวม 0.75%
ตั้งแต่ปี 2565 จนถึงปัจจุบัน (มีการขึ้นดอกเบี้ย 11 ครั้ง ตั้งแต่ มี.ค.2565)
การดำเนินการด้านอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปี 2565
การดำเนินการด้านอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปี 2566
การดำเนินการด้านอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปี 2567