รายงานข่าวระบุว่า นับตั้งแต่ต้นปี 2567 มานี้ เงินเยนอ่อนค่า ลงมาแล้วถึง 12% เมื่อเทียบกับ เงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งการที่เยนหลุดแนวรับที่ 160 เยนต่อดอลลาร์ ทำให้ตลาดคาดว่า รัฐบาลญี่ปุ่น จะแทรกแซงด้วยการเข้าซื้อเยน หลังจากที่เคยใช้เงิน 9.8 ล้านล้านเยน หรือราว 2.26 ล้านล้านบาท แทรกแซงเมื่อปลายเดือนเมษายนและต้นเดือนพฤษภาคมปีนี้ ในช่วงที่เงินเยนออนค่าที่สุดในรอบ 34 ปีที่ 160.245 เยนต่อดอลลาร์สหรัฐ ครั้งนั้นถือเป็นการแทรกแซงตลาดครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2565
นายโยชิมาสะ ฮายาชิ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น แถลงในวันนี้ว่า รัฐบาลจะดำเนินมาตรการที่เหมาะสมกับความเคลื่อนไหวด้านอัตราแลกเปลี่ยนที่มากเกินไป แต่ยังสามารถระบุชัดว่า รัฐบาลจะเข้าแทรกแชงตลาดหรือไม่
ขณะที่นายชุนอิจิ ซูซูกิ รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่นแสดงความกังวลต่อเรื่องนี้โดยระบุว่า อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราควรเคลื่นไหวอย่างมีสเถียรภาพ ไม่ควรเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวอย่างรวดเร็ว เขากล่าวว่า
"รัฐบาลมีความกังวลอย่างยิ่งเรื่องผลกระทบที่จะมีต่อเศรษฐกิจ ขณะนี้เรากำลังจับตาดูความเคลื่อนไหวด้วยความเฝ้าระวังอย่างสูง วิเคราะห์ปัจจัยเบื้องหลังความเคลื่อนไหว และจะดำเนินมาตรการที่จำเป็น"
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ญี่ปุ่นเปิดเผยยอดค้าปลีกประจำเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2% หลังจากที่ปรับตัวขึ้น 2% ในเดือนเม.ย.
ทั้งนี้ การอ่อนตัวลงของค่าเงินเยนสู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 38 ปีเมื่อช่วงค่ำวันพุธ (26 มิ.ย.) ทำให้ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวลดลงทั่วหน้า