นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส. ได้ให้การช่วยเหลือลูกค้าธนาคารที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ภาคเหนือ ผ่าน มาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ ปี 2567” รวม 7 มาตรการ ตามนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงการคลัง
ทั้งนี้ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ลูกค้าโดยครอบคลุมทั้งการลดเงินงวดและดอกเบี้ย ให้กู้เพิ่ม/กู้ใหม่ อัตราดอกเบี้ยต่ำ ประนอมหนี้ ปลอดหนี้ รวมถึงการมอบสินไหมเร่งด่วนให้กับผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน โดยขณะนี้ ธอส. ได้ติดต่อลูกค้าผ่านทุกช่องทางของธนาคารเพื่อให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบแล้ว
โดยมีลูกค้าแจ้งความเสียหายและส่งภาพถ่ายที่อยู่อาศัยเพื่อยื่นความประสงค์ขอรับสินไหมเร่งด่วนแล้วกว่า 400 ราย คิดเป็นประมาณการวงเงินความเสียหายรวมกว่า 15 ล้านบาท โดยยังมีลูกค้าติดต่อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดการณ์จะมีลูกค้าทยอยยื่นความประสงค์ขอรับความช่วยเหลือเพิ่มมากขึ้นต่อไป
“ธอส. ยืนยันพร้อมประสานงานกับบริษัทพันธมิตรประกันวินาศภัย ประกอบด้วย บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) และ บริษัท นวกิจประกันภัย จำกัด (มหาชน) ให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ทำประกันอัคคีภัย ซึ่งคุ้มครองภัยธรรมชาติ ให้ได้รับสินไหมเร่งด่วนเป็นกรณีพิเศษ (รายละเอียดและเงื่อนไขเป็นไปตามกรมธรรม์)”
นายกมลภพ กล่าวว่า จากการที่รัฐบาลและกระทรวงการคลัง มีนโยบายให้สถาบันการเงินของรัฐ เร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ธอส. จึงจัดทำมาตรการเพื่อช่วยเหลือลูกค้าในพื้นที่ประสบอุทกภัย และติดต่อลูกค้า ให้ได้รับความช่วยเหลืออย่างทันท่วงที ส่งผลให้คุณภาพลูกหนี้ใน 13 จังหวัดพื้นที่ประสบอุทกภัย ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2567 มีคุณภาพที่ดีขึ้น เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าสะท้อนจากการผ่อนชำระเงินงวดของลูกค้า แม้ประสบปัญหาน้ำท่วม
สำหรับลูกค้าที่ประสงค์ขอรับบริการตามมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ ปี 2567 ทั้ง 7 มาตรการ สามารถติดต่อได้ที่สาขาของ ธอส. ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2567 โดยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ