วันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 รายงานข่าวจากที่ประชุมคณะกรรมการสรรหามีมติเห็นชอบเลือก "นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง" อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ดำรงตำแหน่งประธานบอร์ดธนาคารแห่งประเทศไทย (ประธานบอร์ด ธปท.) หลังการประชุมใช้เวลานานถึง 5 ชั่วโมง ตั้งแต่ 10.00 น. ถึง 15.00 น.
โดยมติการคัดเลือกนี้จะถูกเสนอให้กระทรวงการคลังพิจารณา และนำเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อนทูลเกล้าฯ แต่งตั้งต่อไป
การคัดเลือกครั้งนี้มีแคนดิเดตทั้งหมด 3 คน ได้แก่
แม้มีการร้องเรียนถึงการตรวจสอบกรอบระยะเวลาหลังพ้นจากตำแหน่งทางการเมืองของนายกิตติรัตน์ โดยคณะกรรมการพิจารณาว่า ตำแหน่งที่นายกิตติรัตน์เคยทำหน้าที่ในรัฐบาลนั้นเป็นตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ไม่ถือเป็นตำแหน่งข้าราชการการเมือง และยังไม่มีข้อกฎหมายที่ขัดขวาง
รายงานข่าวระบุว่ามีการเรียกร้องจากหลายฝ่ายให้ตรวจสอบคุณสมบัติของนายกิตติรัตน์เพิ่มเติม ซึ่งรวมถึงการรื้อฟื้นคดีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญายกฟ้องในเรื่องการระบายข้าวสมัยดำรงตำแหน่งรมว.พาณิชย์ อย่างไรก็ตาม กรณีนี้ไม่ได้ส่งผลต่อคุณสมบัติเนื่องจากยังไม่เคยถูกตัดสินว่ามีความผิดอาญาใดๆ
กิตติรัตน์ ณ ระนอง หรือ "โต้ง" เป็นบุคคลสำคัญที่ครอบคลุมหลายบทบาท ทั้งนักธุรกิจ นักวิชาการ และนักการเมืองในประเทศไทย ก่อนหน้านี้ดำรงตำแหน่งประธานที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน และยังเป็นอดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย
กิตติรัตน์เกิดเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2501 เป็นบุตรของเก่ง ณ ระนอง และวิลัดดา หาญพานิช จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนอัสสัมชัญและโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ก่อนที่จะศึกษาระดับปริญญาตรีที่คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาโทจากสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เส้นทางในวงการธุรกิจและการศึกษา กิตติรัตน์เริ่มต้นเส้นทางธุรกิจด้วยการเป็นกรรมการผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และเป็นที่รู้จักในวงการศึกษาจากการดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการที่สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อีกทั้งเคยเป็นอธิการบดีมหาวิทยาลัยชินวัตรอีกด้วย
สำหรับเส้นทางในวงการการเมือง กิตติรัตน์เข้าสู่การเมืองอย่างเป็นทางการในปี พ.ศ. 2554 เมื่อได้รับแต่งตั้งเป็นรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต่อมาในปี พ.ศ. 2555 เขาได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ในระหว่างการดำรงตำแหน่งนี้ ถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงแนวคิดในการบริหารเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในกรณีที่เคยแถลงตัวเลขเศรษฐกิจที่ถูกกล่าวหาว่าเป็น “โกหกสีขาว” ทำให้เกิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสภา
กิตติรัตน์ ณ ระนอง เป็นที่จับตามองจากสังคมการเงินและการเมือง โดยเฉพาะในมุมมองที่มีต่อการบริหารนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เขามองว่าการดำเนินนโยบายดอกเบี้ยของ ธปท. ที่เน้นการควบคุมเงินเฟ้ออย่างเข้มงวดนั้นไม่สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจไทยที่เปราะบางในปัจจุบัน โดยเขาเชื่อว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนั้นเป็นการเพิ่มภาระให้แก่ผู้บริโภคมากกว่าเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ
และยังวิจารณ์ว่า ธปท. ยึดติดกับทฤษฎีเงินเฟ้อแบบดั้งเดิมมากเกินไป ทั้งที่สภาพเงินเฟ้อในปัจจุบันเป็นผลมาจากแรงผลักด้านต้นทุนมากกว่าแรงดึงด้านอุปสงค์ เปรียบเทียบว่าการใช้นโยบายดอกเบี้ยสูงเป็นเหมือนการใช้ค้อนทุบกระจกเพื่อไล่แมลงวัน ซึ่งเป็นวิธีที่ไม่ตรงจุด และเขามองว่า ธปท. ควรมองให้รอบด้านและตอบสนองต่อสภาวะเศรษฐกิจให้เหมาะสม