เคทีซีกางแผนปี68 เตรียมตัวสู่องค์กรดิจิทัลอย่างยั่งยืน

นางพิทยา วรปัญญาสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน)หรือ เคทีซี เปิดเผยว่า ปีนี้เป็นปีที่มีความท้าทายเยอะมาก จากภาวะเศรษฐกิจที่ยังอ่อนแอ ส่งผลให้กำลังซื้อชะลอตัวไปด้วย รวมถึงแรงกดดันจากระดับหนี้ครวเรือนที่อยู่ในระดับสูงและมาตรการให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม( RL)ของธนาคารแห่งประเทศ(ธปท.)

ส่งผลให้เงินให้สินเชื่อและดอกเบี้ยค้างรับงวด 9 เดือนปี 2567 ของเคทีซีมีจำนวน 106,183 ล้านบาท ลดลง 0.5% จากงวดเดียวกันปีก่อน จากเป้าพอร์ตสินเชื่อรวมปี 2567 ที่ตั้งเป้าเติบโต 6-7% ซึ่งถือเป็นการตั้งเป้าที่ท้าทายมาก และคาดหวังว่าจะเป็นไปได้

"แม้เราจะไม่ถึงเป้าหมาย แต่ก็เติบโตมากกว่าอุตสาหกรรมและเป็นการเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ"

สำหรับเป้าหมายการทำธุรกิจในปี 2568 เคทีซีคาดว่า พอร์ตสินเชื่อรวมจะขยายตัวที่ 4-5% และคุมอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อ (NPL Ratio) รวมให้อยู่ในระดับไม่เกิน 2%

โดยเชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2568 จะขยับตัวดีขึ้นจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ของภาครัฐ จะช่วยเพิ่มรายได้ในภาคประชาชนและสร้างโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ซึ่งถือเป็นสัญญาณบวกกับธุรกิจบริการสินเชื่อผู้บริโภค จากกำลังซื้อที่จะกลับมา ทำให้สถานการณ์เบาบางลง

ในส่วนของยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตปี 2568 คาดว่า จะเติบโตที่ 10-12% จากยอดใช้จ่ายผ่านบัตรที่ไม่ต่ำกว่า 320,000 ล้านบาท และเพิ่มจำนวนสมาชิกใหม่ 250,000 บัตร

หลังจากยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรงวด 9 เดือนปี 2567 มีปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต 211,459 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 15% แต่ยังถือว่า ดีกว่าอุตสาหกรรมที่ขยายตัวเพียง 2.6% 

 “เคทีซีจะเน้นกลุ่มผู้มีรายได้ 50,000 บาทขึ้นไป รวมถึงกลุ่มคนเริ่มทำงาน สร้างความแตกต่างในด้านการทำกิจกรรมทางการตลาดและส่งเสริมการขาย โดยใช้จุดแข็งด้านคะแนนสะสม ในการเพิ่มมูลค่าให้สมาชิก ทำให้ยอดการใช้จ่ายบัตรสูงถึง 94% มากที่สุดในอุตสาหกรรม“

นอกจากนั้น เคทีซียังมีแผนระดมเงินกู้ยืมระยะยาวในปี 2568 ประมาณ 15,000 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนการขยายตัวของพอร์ตสินเชื่อ ลงทุนด้านเทคโนโลยี รวมถึงรองรับหุ้นกู้และเงินกู้ยืมระยะยาวที่จะครบกำหนดประมาณ 13,000 ล้านบาท

ซึ่งจะทำให้ต้นทุนทางการเงินสูงขึ้น 0.1-0.2% จากดอกเบี้ยนโยบาย ที่แม้จะมีแนวโน้มลดลง แต่ก็ยังสูงกว่าช่วงที่ออกหุ้นกู้ แต่ไม่ได้กังวลกับภาวะตลาดหุ้นกู้ที่ยังผันผวน เพราะเสนอขายให้กับนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่

สำหรับธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล บัตรกดเงินสด “เคทีซี พราว” ตั้งเป้าเติบโต 3% เน้นขยายฐานสมาชิกใหม่ผ่านพันธมิตรธุรกิจต่างๆ เพื่อเพิ่มโอกาสเข้าถึงสินเชื่อผ่านช่องทางสมัครสินเชื่อออนไลน์ E-Application ที่ลูกค้าสามารถทำรายการได้ด้วยตนเอง รู้ผลอนุมัติพร้อมรับเงินโอนเข้าบัญชีภายใน 30นาที

พร้อมสร้างประสบการณ์การใช้งานให้กับสมาชิกผ่านฟังก์ชัน “รูด โอน กด ผ่อน” ครบจบในบัตรเดียว และสานต่อโครงการ “เคลียร์หนี้” เพื่อเสริมวินัยทางการเงินแก่สมาชิก

ส่วนสินเชื่อ “เคทีซี พี่เบิ้ม รถแลกเงิน” ตั้งเป้าเติบโตที่ 3,000 ล้านบาท เน้นขยายพอร์ตสินเชื่อผ่านสาขาธนาคารกรุงไทย ตัวแทนจำหน่ายและพันธมิตรธุรกิจต่างๆ เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ประจำและเจ้าของกิจการขนาดเล็กที่เป็นเจ้าของรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ให้สามารถเข้าถึงสินเชื่อ ด้วยวงเงินสูงสุด 100%ของราคาประเมิน

ทั้งนี้ทิศทางธุรกิจเคทีซีปี 2568 ได้เตรียมการเพื่อก้าวสู่องค์กรดิจิทัลอย่างยั่งยืน ด้วยกลยุทธ์ “Building a Sustainable Future Through Digital Transformation” บน 4 แนวทางหลัก ประกอบด้วย

1. Reach Better: ใช้ช่องทางดิจิทัลในการขยายฐานสมาชิกกลุ่มใหม่ที่นิยมทำรายการด้วยตนเองตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการด้วยการพัฒนา E-Application ที่ง่าย ไร้รอยต่อ และปลอดภัย สามารถรู้ผลการสมัครได้รวดเร็วยิ่งขึ้น พร้อมพัฒนาและทดสอบเครื่องมือในการประเมินคุณภาพสินเชื่อ (Credit Scoring Model)ใหม่ๆ เพื่อขยายฐานสมาชิกที่ยังอยู่ในระดับความเสี่ยงที่รับได้
2. Grow Healthier: การบริหารฐานข้อมูลสมาชิกอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมพัฒนาบริการใหม่ๆ บน แอป KTC Mobile ที่ทำให้สมาชิกสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ของเคทีซีได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ตอบโจทย์ความต้องการของสมาชิก และสร้างความมั่นใจในการใช้จ่าย
3. Bond Tighter: เพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยของบริการรวมถึงการสื่อสารบนช่องทางออนไลน์ เพื่อให้สมาชิกใช้งานง่าย สะดวกและมั่นใจมากขึ้น รวมถึงเครื่องมือที่ช่วยให้ทีมงานคอนแทคเซ็นเตอร์สามารถให้บริการตอบคำถามได้รวดเร็วและถูกต้องแม่นยำ เพื่อให้สมาชิกได้รับความพึงพอใจมากที่สุด
4. Work Smarter: เตรียมความพร้อมด้านเครื่องมือ กระบวนการและการพัฒนาทักษะ ด้าน ไอทีให้กับบุคลากรเคทีซีทั้งองค์กร ส่งเสริมการคิดริเริ่มและปรับปรุงกระบวนการทำงาน โดยประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการเพิ่มประสิทธิภาพงาน ลดค่าใช้จ่าย และพัฒนาทักษะของพนักงานให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง

หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,052 วันที่ 12 - 14 ธันวาคม พ.ศ. 2567