เริ่มต้นปีใหม่ 2025 ด้วย 5 เหตุผลควรออมเงินในยุคเศรษฐกิจผันผวน
เพราะอนาคตไม่มีความแน่นอน การออมเงินจึงกลายเป็นสิ่งสำคัญในยุคที่เศรษฐกิจผันผวน เพื่อรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน บรรลุเป้าหมายในชีวิต หรือสร้างความมั่นคงในระยะยาว นี่คือ 5 เหตุผลที่การออมเงินช่วยให้รับมือกับทุกความท้าทายในปี 2025
เปลี่ยนปีใหม่ 2025 ให้เป็นปีแห่งความมั่นคงทางการเงิน เมื่อปีใหม่มาถึง หลายคนตั้งเป้าหมายเพื่อพัฒนาตัวเองในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการดูแลสุขภาพ การเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ หรือการสร้างความสำเร็จในอาชีพ แต่สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันและอาจเป็นพื้นฐานของเป้าหมายเหล่านั้น คือ การออมเงิน
การออมเงินไม่ได้เป็นเพียงการเก็บสะสมเพื่ออนาคต แต่ยังเป็นการวางรากฐานสำหรับความมั่นคงในชีวิต ช่วยให้คุณพร้อมรับมือกับสถานการณ์ไม่คาดฝันและบรรลุเป้าหมายใหญ่ๆ ที่เคยฝันไว้ ปีใหม่นี้ ลองตั้งเป้าหมายเล็กๆ เช่น การเริ่มต้นออมเงินเดือนละ 10% ของรายได้ หรือเพิ่มเงินออมสำรองฉุกเฉิน เพื่อเปลี่ยนปี 2025 ให้เป็นปีแห่งความสำเร็จและอิสระทางการเงินที่แท้จริง
ต่อไปนี้คือ 5 เหตุผลหลักที่การออมเงินควรเป็นเป้าหมายสำคัญของคุณในปีนี้ ที่จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้คุณเริ่มต้นก้าวแรกไปสู่ชีวิตที่มั่นคงและพร้อมสำหรับอนาคต!
5 เหตุผลที่การออมเงินเป็นเรื่องสำคัญ
หากกำลังลังเลว่าการตั้งเงินออมไว้ในงบประมาณคุ้มค่าหรือไม่ ต่อไปนี้คือเหตุผล 5 ประการว่าเหตุใดการออมเงินจึงมีความสำคัญ
เป็นเครื่องช่วยชีวิตในยามฉุกเฉินทางการเงิน
หากตกงาน จะทำอย่างไร จะจ่ายค่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าอาหารอย่างไร แม้ว่างานจะดูมั่นคง แต่ก็ถือเป็นสถานการณ์สำคัญที่ต้องพิจารณา ธนาคารกลางสหรัฐประจำมินนิอาโปลิสรายงานว่าผู้ใหญ่ชาวอเมริกันเกือบครึ่งหนึ่งไม่สามารถดำรงค่าใช้จ่ายประจำวันได้หากพวกเขาสูญเสียรายได้เป็นเวลาสามเดือน
ดังนั้น จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีเงินสำรองไว้บ้างเพื่อใช้ยามฉุกเฉินทางการเงิน ไม่ว่าจะถูกเลิกจ้าง ลาออกจากงานเพราะปัญหาสุขภาพ หรือสูญเสียลูกค้ารายใหญ่ไปหากคุณประกอบอาชีพอิสระ กองทุนออมทรัพย์ฉุกเฉินสามารถช่วยครอบคลุมค่าใช้จ่ายรายเดือนที่จำเป็นได้ ดังนั้น คุณจะไม่พลาดชำระเงินหรือก่อหนี้ก้อนโตในขณะที่กลับมาลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง
เราสามารถใช้เงินสำรองฉุกเฉินเพื่อจ่ายค่าใช้จ่ายครั้งใหญ่ที่ไม่คาดคิด เช่น ค่ารักษาพยาบาลที่อยู่นอกเครือข่ายหรือค่าซ่อมแซมบ้านที่มีราคาสูง
การออมเงินเป็นเรื่องสำคัญ
ช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายใหญ่
การออมเงินยังช่วยให้บรรลุเป้าหมายที่ไม่เร่งด่วนซึ่งมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงได้ ตัวอย่างเช่น หากการเป็นเจ้าของบ้านอยู่ในแผนระยะยาว อาจจำเป็นต้องมีเงินดาวน์ ตามข้อมูลของ Redfin ผู้ซื้อบ้านโดยเฉลี่ยจะวางเงินดาวน์ 18.6% ของราคาซื้อทรัพย์สิน ณ เดือนมิถุนายน 2024 เงินดาวน์โดยทั่วไปอยู่ที่ 67,500 ดอลลาร์ แน่นอนว่าการสร้างเงินออมให้ได้ห้าหลักอาจต้องใช้เวลา แต่คุณจะบรรลุเป้าหมายได้เร็วขึ้นหากเริ่มตั้งแต่ตอนนี้
ในบริบทของประเทศไทย การออมเงินเพื่อบรรลุเป้าหมายระยะยาว เช่น การเป็นเจ้าของบ้าน ถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับหลายครอบครัว โดยเฉพาะเมื่อราคาที่อยู่อาศัยในเขตเมืองใหญ่ เช่น กรุงเทพฯ หรือเชียงใหม่ มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทยชี้ให้เห็นว่า การวางเงินดาวน์สำหรับการซื้อบ้านในไทยโดยทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 10-20% ของมูลค่าทรัพย์สิน ตัวอย่างเช่น หากบ้านมีราคาเฉลี่ย 3 ล้านบาท ผู้ซื้ออาจต้องเตรียมเงินดาวน์อย่างน้อย 300,000-600,000 บาท การสร้างเงินออมในระดับนี้อาจดูท้าทาย แต่หากเริ่มต้นออมเงินเดือนละ 5,000 บาทโดยมีดอกเบี้ยจากการลงทุนหรือเงินฝาก จะสามารถสะสมเงินก้อนนี้ได้ภายใน 5-10 ปี
นอกจากนี้ การมีเงินดาวน์ที่เพียงพอช่วยลดภาระการกู้ยืม และทำให้ดอกเบี้ยสินเชื่อลดลงในระยะยาว อีกทั้งยังช่วยเพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อจากธนาคาร ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการทำให้ความฝันในการเป็นเจ้าของบ้านในไทยเป็นจริง
ลดการพึ่งพาเงินกู้
หากไม่มีเงินสดเพียงพอที่จะจ่ายค่าใช้จ่ายต่างๆ ไม่ว่าจะวางแผนไว้หรือไม่ก็ตาม คุณอาจพิจารณากู้เงินแทน อย่างไรก็ตาม ต้นทุนในการกู้ยืมนั้นค่อนข้างสูงและอาจส่งผลให้เกิดความไม่มั่นคงทางการเงินมากขึ้น
การกู้ยืมเงินผ่านบัตรเครดิตหรือการกู้ยืมเงินนั้น จะต้องเสียดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมต่างๆ ซึ่งอาจส่งผลให้ยอดค่าใช้จ่ายทั้งหมดของคุณเพิ่มขึ้น ตัวอย่างเช่น หากคุณใช้บัตรเครดิตซื้อสินค้ามูลค่า 1,000 ดอลลาร์ โดยคิดอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 22% ต่อปี หากคุณใช้เวลา 1 ปีในการชำระเงินคืน จะต้องเสียดอกเบี้ยเพิ่มอีก 123.13 ดอลลาร์
ในบริบทของประเทศไทย การใช้บัตรเครดิตหรือการกู้ยืมเงินอาจมีต้นทุนทางการเงินที่สูงหากไม่มีการบริหารจัดการอย่างรอบคอบ ตัวอย่างเช่น หากคุณใช้บัตรเครดิตเพื่อซื้อสินค้าในราคา 30,000 บาท โดยคิดอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 16% ต่อปี (วิธีคิดดอกเบี้ยบัตรเครดิต ) และใช้เวลา 1 ปี ในการชำระเงินคืน คุณจะต้องจ่ายดอกเบี้ยเพิ่มประมาณ 4,800 บาท รวมยอดชำระทั้งสิ้นเป็น 34,800 บาท
สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่าหากไม่มีการวางแผนทางการเงินที่ดี การพึ่งพาบัตรเครดิตสำหรับค่าใช้จ่ายที่ไม่ได้วางแผนอาจเพิ่มภาระทางการเงินได้อย่างมาก นอกจากนี้ การชำระเพียงขั้นต่ำในแต่ละเดือนยังทำให้ดอกเบี้ยสะสมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาหนี้สินระยะยาวที่จัดการได้ยาก การออมเงินไว้สำรองจึงเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า ช่วยหลีกเลี่ยงดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมที่ไม่จำเป็น
และหากเลือกที่จะยืมเงินจากเพื่อนหรือครอบครัว อาจส่งผลให้ความสัมพันธ์ตึงเครียดได้ โดยเฉพาะหากไม่มีแผนที่ชัดเจนในการชำระหนี้ หรือไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด
การมีเงินออมจะช่วยลดความจำเป็นในการกู้ยืม และทำให้มีความอิสระในการใช้จ่ายเงินตามที่ต้องการโดยไม่มีเงื่อนไขผูกมัดใดๆ
สามารถช่วยสนับสนุนสุขภาพจิตได้
จากการสำรวจของ MarketWatch ในปี 2024 ผู้ตอบแบบสอบถาม 88% ระบุว่า มีความเครียดทางการเงิน โดย 47% ระบุว่าสาเหตุมาจากการขาดเงินออม ความกังวลว่าจะจัดการกับวิกฤตทางการเงินอย่างไรเป็นภาระทางจิตใจอันหนักอึ้งที่ต้องแบกรับ
การออมเงินสามารถส่งผลดีต่อสุขภาพจิตได้โดยทำให้คุณรู้สึกควบคุมชีวิตทางการเงินได้ และลดพฤติกรรมเชิงลบที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากความเครียดทางการเงิน เช่น การผัดวันประกันพรุ่งในการตัดสินใจเรื่องเงินที่สำคัญหรือการละเลยเรื่องการเงินไปเลย
ช่วยให้คุณมีความมั่นคงและประสบความสำเร็จในอนาคต
การดำรงชีวิตอย่างสะดวกสบายหลังเกษียณต้องอาศัยการวางแผนและความอดทนอย่างเหมาะสมในช่วงวัยทำงาน การจัดลำดับความสำคัญในการออมเงินเพื่อสิ่งที่รู้สึกว่าอยู่ไกลเกินเอื้อมอาจเป็นเรื่องยาก แต่สักวันหนึ่งจะอยากเกษียณ และจะรู้สึกขอบคุณที่ได้จัดสรรเงินไว้สำหรับจุดประสงค์นั้นอย่างตั้งใจตลอดหลายปีที่ผ่านมา
การออมเงินเพื่อเกษียณอายุเป็นส่วนสำคัญของเสถียรภาพทางการเงินในระยะยาว การเก็บเงินไว้ในบัญชีเกษียณอายุ ไม่ว่าจะเป็นบัญชี 401(k) ที่ได้รับการสนับสนุนจากนายจ้าง บัญชีเกษียณอายุส่วนบุคคล หรือบัญชีที่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีอื่นๆ จะช่วยให้คุณมีชีวิตที่สุขสบายในอนาคต ยิ่งเริ่มออมเงินและลงทุนเร็วเท่าไหร่ คุณก็จะบรรลุเป้าหมายได้ง่ายขึ้นเท่านั้น เนื่องจากได้รับผลตอบแทนทบต้น