ไม่ผิดดหวังราคาหุ้น บริษัท เดอะคลีนิกค์ คลินิกเวชกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ KLINIQ เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็มเอไอ (MAI) วันแรกเมื่อ วันที่ 7 พ.ย.65 ปิดที่ระดับสูงสุด 41.50 บาท เพิ่มขึ้น 17.00 บาท หรือ บวก 69.39% จากราคาไอพีโอ 24.50 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 5,563 ล้านบาท โดยราคาหุ้น KLINIQ เปิดซื้อขายอยู่ที่ระดับ 36.00 บาท และระหว่างวันทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 35.50 บาท สูงสุดที่ 41.50 บาท มีปริมาณการซื้อขายมากถึง 143.84 ล้านหุ้น ขณะที่การเสนอขายไอพีโอเพียง 60 ล้านหุ้นและทุนชำระแล้ว 220 ล้านหุ้น
ล่าสุดราคาหุ้น KLINIQ วันนี้ ( 8 พ.ย.) เปิดซื้อขายที่ 41.00 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือลบ 1.20% และเมื่อเวลา 11.32 น.ราคาอยู่ระดับ 40.50 บาท ลดลง 1.00 บาท หรือ ลบ 2.41% แต่ยังสูงกว่าราคาไอพีโอ 65.31% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 627.05 ล้านบาท ราคาสูงสุดอยู่ที่ 42.75 บาท และต่ำสุดที่ 40.00 บาท โดยราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 41.41 บาท
ขณะที่โครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ KLINIQ 10 อันดับแรก จากข้อมูลตลาดหลักทรัพย์ฯ ณ วันที่ 7 พ.ย.65 มีรายชื่อดังนี้
ทั้งนี้พบว่า 4 เซียนหุ้นแถวหน้าของไทยได้แก่ นายไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา ,นายวิชัย วชิรพงศ์ หรือเสี่ยยักษ์, นายคเชนทร์ เบญจกุล และนายพีรนาถ โชควัฒนา มีมูลค่าพอร์ตรวมกันกว่า 545 ล้านบาท ( ข้อมูล ณ 8 พ.ย.65 อิงราคาเฉลี่ย 41.41บาท ) ทำกำไรทางบัญชีวันเดียวกว่า 222 ล้านบาท จากราคาไอพีโอ ดังนี้
ส่วนชื่อ"อั้ม - พัชราภา ไชยเชื้อ" ซึ่งก่อนหน้านี้มีข่าวออกมาว่าได้เข้าลงทุนโดยถือหุ้นใน KLINIQ ด้วยนั้น
นายแพทย์อภิรุจ ทองวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KLINIQ กล่าวว่า การจัดสรรหุ้นไอพีโอครั้งนี้ บริษัทได้จัดสรรให้กับ อั้ม - พัชราภา ไชยเชื้อ ซึ่งเป็นพรีเซ็นเตอร์ของบริษัท
อ่านเพิ่ม : "อั้ม พัชราภา"โผล่ซื้อหุ้นไอพีโอ KLINIQ เตรียมเทรด mai 7 พ.ย.นี้
อนึ่ง หุ้นไอพีโอ KLINIQ ได้จัดสรรให้กับผู้มีอุปการคุณ รวมไม่กิน 9,000,000 หุ้น คิดเป็น 15% ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท ภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้
นายแพทย์อภิรุจ ทองวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KLINIQ เผยว่า ราคาหุ้นของ KLINIQ ที่พุ่งสูงกว่าราคาไอพีโอ ถือเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั่วไป นักลงทุน VI และนักลงทุนสถาบัน ที่มองเห็นถึงศักยภาพการเติบโตได้อีกมาก หลังเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai เพื่อรองรับแผนขยายธุรกิจในช่วง 1-3 ปีข้างหน้า ผลักดันผลการดำเนินงานของบริษัทฯเติบโตอย่างก้าวกระโดด สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง
ชู 3 จุดแข็ง
KLINIQ ในฐานะผู้นำธุรกิจสุขภาพและการแพทย์ความงามครบวงจร คลินิกเจ้าแรกของประเทศไทย เข้าระดมทุนตลาดหุ้นสำเร็จ ภายใต้ 3 จุดแข็ง
เมื่อผนวกกับแผนการขยายคลินิกเวชกรรม 6-10 สาขา/ปี ทั้งในกรุงเทพฯ หัวเมืองหลัก และหัวเมืองรอง ทำให้เห็นภาพการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของ KLINIQ ในช่วง 1-3 ปีขางหน้า
สำหรับเงินที่ได้รับจากการขยายไอพีโอในครั้งนี้ บริษัทฯ เตรียมนำเงินไปใช้ในการขยายสาขาคลินิกเวชกรรมราว 6-10 สาขาต่อปี ครอบคลุม พื้นที่กรุงเทพฯ หัวเมืองหลัก และหัวเมืองรอง โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนขยายคลินิกเวชกรรมและจัดซื้อเครื่องมือทางการแพทย์เพิ่มเติมประมาณ 950 ล้านบาท คาดว่าจะคืนทุนภายใน 2-3 ปี ส่วนศูนย์ศัลยกรรมจะใช้เงินลงทุนประมาณ 150 ล้านบาท คาดว่าจะคืนทุนภายใน 3-4 ปี