จากข่าวสำนักข่าวบลูมเบิร์ก ระบุ รายงานจากแหล่งข่าวว่า บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) (Big C) กำลังพิจารณาเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นอีกครั้ง ผ่านการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนครั้งแรก (IPO) คาดเบื้องต้นอาจจะระดมทุนมากกว่า 500 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 18,500 ล้านบาท นั้น
อ่านเพิ่ม : “เจ้าสัวเจริญ” จ่อนำ “บิ๊กซี” รีเทิร์นตลาดหุ้น ระดมทุนกว่า 1.8 หมื่นล้าน
ล่าสุดวันนี้ ( 9 พ.ย.65) BJC ได้ออกมาชี้แจงผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่ายังไม่มีข้อสรุปกับประเด็นดังกล่าวแต่อย่างใด
โดยบริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC เปิดเผยว่า ตามข่าวที่ปรากฎในสื่อออนไลน์ว่า บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาการเสนอขายหุ้นครั้งแรกให้กับประชาชนทั่วไปของ บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) "Big C" บริษัทขอเรียนชี้แจงว่า บริษัทยังไม่มีข้อสรุปในเรื่องดังกล่าว ณ ขณะนี้
ทั้งนี้ เมื่อบริษัทมีความคืบหน้าที่ชัดเจนในเรื่องดังกล่าว บริษัทจะแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยพร้อมรายละเอียดต่อไป
"Big C" ก่อตั้งโดยกลุ่มเซ็นทรัลของประเทศ ไทย เมื่อปี 2536 และเปิดสาขาแห่งแรก บนถนนแจ้งวัฒนะ บริษัทระดมทุนผ่านไอพีโอราว 4.2 พันล้านบาท ในปี 2555 จากนั้น เมื่อปี 2559 บริษัททีซีซี โฮลดิ้ง จำกัด (TCC) ภายใต้การบริหารของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี ได้เข้าซื้อหุ้น Big C จากกลุ่ม Casino Guichard Perrachor SA ผู้ค้าปลีกสัญชาติฝรั่งเศส 58.6% ในราคา 3.1 พันล้านยุโร และนำ Big C ออกจากตลาดหุ้นไทยในปี 2563 หลังจากที่ TCC โดยบริษัทย่อยคือ บมจ.เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ ได้เข้าชื่อกิจการทั้งหมด
ปัจจุบัน Big C ดำเนินการร้านค้าทั้งหมด 1,792 แห่ง ซึ่งรวมถึงร้านสะดวกซื้อ ซุปเปอร์มาร์เก็และไฮเปอร์มาร์ก็ต ในประเทศไทย เวียดนาม สปป.ลาว และกัมพูชา ในช่วงต้นปี 65 บริษัทได้เข้าซื้อร้าน 18 KiwiMart ในกัมพูชา และวางแผนที่จะรีแบรนด์ร้านเหล่านั้นให้เป็น Big C Mini