กรณีหุ้น บริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) หรือ MORE ยังคงเป็นข่าวที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด หลังจากพบวอลุ่มปริศนาที่มีการซื้อขายในช่วงราคาเปิด(ATO) ของวันที่ 10 พ.ย.2565 จำนวนกว่า 1,500 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 4,500 ล้านบาท ซึ่งทำให้ราคาหุ้นกระโดดไปแตะระดับ 2.9 บาท ก่อนที่จะทิ้งดิ่งลงมาจนร่วงติดเพดานการซื้อขายด้านล่าง (ฟลอร์) ถึง 2 วันทำการ
ต่อมามีรายงานข่าวว่า นายอภิมุข บำรุงวงศ์ ผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 4 ของหุ้น MORE เป็นผู้ทำรายการในฝั่งขาซื้อ ผ่านโบรกเกอร์กว่า 10 แห่ง ซึ่งล่าสุดไม่สามารถชำระราคาค่าขายหุ้นได้ ทำให้โบรกเกอร์เหล่านี้ต้องสำรองเงินเพื่อชำระราคาค่าซื้อหุ้นของนายอภิมุขไปก่อน
อย่างไรก็ตาม เช้าวันนี้ (16พ.ย.) มีรายงานว่า เวลา 11.00 น. โบรกเกอร์ที่ นายอภิมุข เป็นผู้ส่งคำสั่งซื้อหุ้นจำนวน 11 แห่ง จะเดินทางไปที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ(บก.ปอศ.) เพื่อฟ้องนายอภิมุขและพรรคพวกอีกราว 20 คนในข้อหาฉ้อโกง เนื่องจากต้องสงสัยว่ารายการซื้อขายหุ้น MORE ดังกล่าว จะเป็นลักษณะการจับคู่ซื้อขายในกลุ่มเดียวกันเอง จนสร้างความเสียหายให้กับโบรกเกอร์ที่เป็นผู้ส่งคำสั่งซื้อหุ้นออกไป
ก่อนหน้านี้ ทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) ได้สั่งระงับการชำระค่าหุ้น MORE ในธุรกรรมต้องสังสยของกลุ่มผู้ลงทุนรายใหญ่เอาไว้ก่อน โดยอาศัยกฎกระทรวงปี 2563 ข้อ 16 , 17 และ 23 พร้อมกับให้โบรกเกอร์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกลับไปตรวจสอบธุรกรรมการซื้อขายหุ้น MORE ในวันเกิดเหตุว่า เป็นการจับคู่ซื้อขายของผู้ลงทุนกลุ่มเดียวกันเองหรือไม่ ซึ่งเบื้องต้นจะทราบผลการตรวจสอบในวันที่ 18 พ.ย.นี้