ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,517.65 จุด ลดลง 112.96 จุด หรือ -0.34%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,892.09 จุด ลดลง 2.99 จุด หรือ -0.08% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,635.65 จุด เพิ่มขึ้น 66.36 จุด หรือ +0.63%
พอล นอลเต นักวิเคราะห์จากบริษัทคิงส์วิว อินเวสต์เมนท์ แมเนจเมนท์ในเมืองชิคาโกกล่าวว่า นักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากตลาดพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงที่ผ่านมา โดยดาวโจนส์ปิดตลาดทะยานขึ้นกว่า 700 จุดในวันศุกร์ (6 ม.ค.) ขานรับตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรและดัชนีภาคบริการของสหรัฐที่บ่งชี้ว่าเงินเฟ้อได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว และจะเป็นปัจจัยหนุนให้เฟดชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ย
ทั้งนี้ นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% ในเดือนก.พ. หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรและดัชนีภาคบริการเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
หุ้น 6 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ร่วงลง 1.66% และดัชนีหุ้นกลุ่มสินค้าผู้บริโภคลดลง 1.03% ทั้งนี้ หุ้นอิไล ลิลลี่ ร่วงลง 3.64% หุ้นแอ๊บบอต ลาบอแรตอรีส ลดลง 0.16% หุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ร่วงลง 2.58% หุ้นพรอคเตอร์ แอนด์ แกมเบิล ดิ่งลง 1.22 หุ้นโคคา-โคลา ร่วงลง 1.25% หุ้นคิมเบอร์ลีย์-คล้าค ลดลง 1.03%
อย่างไรก็ดี ดัชนีหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้น 1.09% หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ โดยหุ้นอัลฟาเบท บวก 0.78% หุ้นแอปเปิ้ล ดีดขึ้น 0.41% หุ้นไมโครซอฟท์ พุ่งขึ้น 0.97%
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ประจำเดือนธ.ค.ของสหรัฐในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งคาดว่าตัวเลข CPI ดังกล่าวจะบ่งชี้ภาวะชะลอตัวของเงินเฟ้อสหรัฐ
ขณะเดียวกัน นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ซึ่งจะกล่าวสุนทรพจน์ว่าด้วยความเป็นอิสระของธนาคารกลางในการเสวนาที่จะจัดขึ้นที่กรุงสตอกโฮล์มในวันนี้ (10 ม.ค.) เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปีนี้
นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูผลประกอบการของของธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐในวันศุกร์ ซึ่งได้แก่ เจพีมอร์แกน, ซิตี้กรุ๊ป, แบงก์ ออฟ อเมริกา และเวลล์ ฟาร์โก