KBANKคาดเงินบาทแข็งค่าต่อสัปดาห์หน้า ประเมินกรอบ 32.70-3370บาทต่อดอลลาร์

14 ม.ค. 2566 | 09:39 น.
อัปเดตล่าสุด :14 ม.ค. 2566 | 16:51 น.

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยแนะติดตาม 7ปัจจัยสำคัญสัปดาห์หน้า บล.กสิกรไทย มองสัปดาห์หน้าระหว่างวันที่ 16-20ม.ค.2566 ดัชนีหุ้นไทยแนวรับที่ 1,670 และ 1,650 จุด

ธนาคารกสิกรไทยมองสัปดาห์หน้าระหว่างวันที่ 16-20  ม.ค. 2566 กรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทที่ระดับ 32.70-33.70 บาทต่อดอลลาร์ฯ ทั้งนี้เมื่อวันศุกร์ที่ 13 ม.ค. 2566 เงินบาทปิดตลาดที่ระดับ 32.98 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 34.05 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (6 ม.ค.)

KBANKคาดเงินบาทแข็งค่าต่อสัปดาห์หน้า ประเมินกรอบ 32.70-3370บาทต่อดอลลาร์

 สำหรับสถานะพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนต่างชาติระหว่างวันที่ 9-13 ม.ค. 2566 นั้น นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย 10,480 ล้านบาท และมีสถานะเป็น Net Inflows เข้าตลาดพันธบัตรไทย 18,990 ล้านบาท (ซื้อสุทธิ 19,069 ล้านบาท แต่มีตราสารหนี้ที่หมดอายุ 79 ล้านบาท)

 

บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด (บล.)มองสัปดาห์หน้าระหว่างวันที่ 16-20ม.ค.2566 ว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,670 และ 1,650 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,700 และ 1,710 จุด ตามลำดับ

KBANKคาดเงินบาทแข็งค่าต่อสัปดาห์หน้า ประเมินกรอบ 32.70-3370บาทต่อดอลลาร์

ที่ผ่านมาในวันศุกร์ (13 ม.ค.) ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,681.73 จุด เพิ่มขึ้น 0.47% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 78,526.62 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.53% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 2.41% มาปิดที่ระดับ 589.66 จุด

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ การทยอยประกาศผลประกอบการงวดไตรมาส 4/65 ของบริษัทจดทะเบียนในไทย โดยเฉพาะกลุ่มแบงก์ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ และสถานการณ์โควิดในจีน  ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิต ยอดค้าปลีก ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและยอดขายบ้านมือสองเดือนธ.ค. ตลอดจนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

 

ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ การประชุม BOJ ดัชนีราคาผู้ผลิตและดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนธ.ค. ของญี่ปุ่น ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนธ.ค. ของยูโรโซน รวมถึงตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/65 และข้อมูลเศรษฐกิจเดือนธ.ค. ของจีน อาทิ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ยอดค้าปลีก การลงทุนในสินทรัพย์ถาวร