เมืองไทยประกันชีวิตเผยแผนปี66 ยึดกลยุทธ์4แกนตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ลูกค้าไทย-อาเซียน ย้ำ"ทุกอย่างคือความสุข- Happiness Reinvented”
นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) (MTL) เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศไทยในปี 2566 ยังมีความผันผวน ตามสถานการณ์เศรษฐกิจโลก และการแพร่ระบาดของโควิด 19 ท่ามกลางทิศทางดอกเบี้ย "ขาขึ้น"ซึ่งอัตราดอกเบี้ยเป็นต้นทุนหลักของประกันชีวิต เนื่องจากบริษต้องลงทุนในระยะยาว เพื่อให้สอดคล้องกับแผนลงทุนในระยะยาวของลูกค้า
สำหรับบมจ.เมืองไทยประกันชีวิต(MTL)เชื่อมั่นว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไทยจะมีการฟื้นตัวได้ในทิศทางที่ดี โดย
ในปี2566 บริษัทตั้งเป้าหมายในการเป็นองค์กรที่มุ่งเน้นการส่งมอบความสุขให้แก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง
ควบคู่ไปกับการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืนในทุกมิติ ผ่านกลยุทธ์ “Happiness Reinvented” เพราะความสุขคือทุกอย่าง…ร่วมสร้างควาสุขสไตล์คุณไปกับเมืองไทยประกันชีวิต
ขณะเดียวกันยังคงเป้าหมายเป็นอันดับหนึ่งในฐานะ “คู่คิดด้านชีวิตและสุขภาพที่ลูกค้าวางใจ ด้วยผลิตภัณฑ์ บริการ และนวัตกรรมที่ตรงต่อความการของผู้บริโภค โดยบริษัทมุ่งดำเนินงานผ่าน 4 แกนสำคัญ ได้แก่ บุคลากร พาร์ทเนอร์ ลูกค้า และนอกเหนือจากลูกค้า
ภายใต้แผนในการสร้างความความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง ให้กับลูกค้าฝนทุกมิติ โดยบริษัทยังดำเนินงานในการยึดหลักการมีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง และนำเสนอผลิตภัณฑ์และการบริการที่ตรงต่อความต้องการของผู้บริโภค
นอกจากนี้บริษัทยังประกาศความม่งมั่นที่จะปฏิบัติตามนโยบายและเป้าหมายด้านการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน หรือ ESG ในทุกมิติ ทั้งในด้านของสิ่งแวดล้อม สังคม ธรรมาภิบาล และ เศรษฐกิจ เพื่อสร้างความสุขอย่างยั่งยืนกับบริษัทและสังคมโดยรวมต่อไป
ที่ผ่านมาในรอบปี2565 เป็นปีที่เต็มไปด้วยที่มีความท้าทาย จากภาวะเศรษฐกิจไทยที่ค่อยๆ ฟื้นตัว หลังจากการระบาดอย่างรุนแรงของการแพร่ระบาดของโควิด -19 ส่งผลให้พฤติกรรมของผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ในส่วนของกำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง แต่ยังไม่มีผลต่อการต่ออายุกรมธรรม์ของลูกค้าอย่างชัดเจน แต่บริษัทยังคงดำเนินธุรกิจด้วยความแข็งแกร่ง
เห็นได้จากบริษัทมีเบี้ยประกันภัยรับใหม่ที่ 10% และเบี้ยประกันภัยสุขภาพและโรคร้ายแรงที่ 7% สำหรับธุรกิจในภูมิภาคอาเซียนและCLMV มีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นต่อเนื่องเช่นกัน
นายธนัญชัย สัจจะปรเมษฐ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)หรือ MTL กล่าวถึงแนวโน้มอุตราผลตอบแทนจากการลงทุนว่า ปัจจุบันบริษัทมีสินทรัพย์ลงทุนกว่า6แสนล้านบาท โดย
คาดผลตอบแทนการลงทุนปีนี้ใกล้เคียงปีก่อนที่อยู่ระดับ3-4%
ทั้งนี้ในรอบปี2565บริษัทมีสินทรัพย์รวมกว่า 600,000 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนใน ตราสารหนี้ 80% และตลาดหุ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ อีก13-14% ลงทุนในหุ้น และทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่า(กองรีท) และอื่นๆ อีกประมาณ 6-7%
"ผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) อยู่ที่ 3-4% โดยปีนี้ แผนการลงทุนโดยจะจับจังหวะในการลงทุนในหุ้น เน้นการลงทุนในหุ้นกลุ่ม SET 100 และเน้นการจ่ายปันผลที่สม่ำเสมอ แต่ในปี2566นี้มั่นใจว่าผลตอบแทนจากการลงทุนจะอยู่ที่ 3-4%"
นายสาระ กล่าวเพิ่มเติมวา บริษัทมีความแข็งแกร่งและเสถียรภาพทางด้านการเงิน โดยได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก S&P Global Ratings อยู่ที่ระดับ BBB+ โดยแนวโน้มมีเสถียรภาพ และจาก Fitch Ratings อยู่ที่ระดับ A- โดยมีแนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ และคงอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศที่ AAA(tha)
ขณะเดียวกันบริษัทยังมีความเพียงพอของเงินกองทุนอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งโดยสะท้อนจกาอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนสูงกว่า 300% ณ สิ้นปี 2565 ซึ่งสูงกว่าระดับเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามเกณฑ์ที่ 140%