รายงานข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า วันนี้(8ก.พ.) ก.ล.ต.ได้ดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด 14 รายกรณีสร้างราคาหุ้นจำนวน 5 บริษัท โดยเรียกให้ชำระเงินตามมาตรการลงโทษทางแพ่งรวม 27,398,667 บาท กำหนดระยะเวลาห้ามซื้อขายหลักทรัพย์และสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารกับผู้กระทำความผิดทั้ง 14 ราย
บุคคล 14 รายที่ก.ล.ต.ดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่ง
การดำเนินคดีทางแพ่งกับกลุ่มบุคคลดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องมาจากก.ล.ต. ได้รับข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) และตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่าระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2562 ถึงเดือนมกราคม 2563 ผู้กระทำความผิด 14 ราย ได้ร่วมกันส่งคำสั่งซื้อขายหุ้น โดยมุ่งหมายให้ราคาหรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ผิดไปจากสภาพปกติของตลาด โดยมีรายละเอียดดังนี้
ก.ล.ต.มีคำสั่งให้ผู้กระทำผิด 14 ราย ให้ผู้กระทำความผิดชำระค่าปรับทางแพ่ง ชดใช้เงินในจำนวนเท่ากับผลประโยชน์ที่ได้รับหรือพึงได้รับ ดังนี้
รวมวงเงินค่าปรับ 27,398,667 บาท
ทั้งนี้การกระทำของบุคคลดังกล่าวข้างต้นเป็นความผิดฐานสร้างราคาหุ้น SCI GSC ASIAN FLOYD และ RP ตามมาตรา 244/3(1)(2) ประกอบมาตรา 244/5(2)(3)(5) แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ประกอบมาตรา 83 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งต้องระวางโทษตามมาตรา 296 มาตรา 296/1 และมาตรา 296/2 แห่งพระราชบัญญัติฉบับเดียวกัน
พร้อมกันนี้ทางคณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) มีมติให้นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้บังคับกับผู้กระทำความผิดทั้ง 14 ราย โดยกำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่ง
โดยห้ามผู้กระทำความผิดจำนวน 11 ราย ได้แก่ นายขจรเกียรติ นางสาวพรทิพย์ นางทัศนีย์ นางสาวมุทิตา นายเมธาสิทธิ์ นางสาวเมทินี นางสาววริยา นายธนพล นางสาวอัจฉรา นายสิทธาปวีร์ และนางสาวอชิรญา ซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เป็นเวลารายละ 30 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์หรือบริษัทหลักทรัพย์ เป็นเวลารายละ 60 เดือน
นอกจากนี้ยังห้ามผู้กระทำความผิดจำนวน 3 ราย ได้แก่ นางสาวขณิษากาญจน์ นางสาวพจนา และนางสาวเมวิกา ซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เป็นเวลารายละ 14 เดือน และห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารในบริษัทที่ออกหลักทรัพย์หรือบริษัทหลักทรัพย์ เป็นเวลารายละ 28 เดือน
อย่างไรก็ตามการกำหนดระยะเวลาห้ามซื้อขายหลักทรัพย์หรือสัญญาซื้อขายล่วงหน้าหลักทรัพย์ และระยะเวลาห้ามเป็นกรรมการหรือผู้บริหารดังกล่าวข้างต้น จะมีผลนับตั้งแต่วันที่ผู้กระทำความผิดลงนามในบันทึกการยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนด หากผู้กระทำความผิดไม่ยินยอม ก.ล.ต. จะมีหนังสือขอให้พนักงานอัยการดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลแพ่ง เพื่อกำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่งในอัตราสูงสุดที่กฎหมายบัญญัติ