ตลาดหุ้นไทยภาคเช้าวันนี้ (13 มี.ค. 66) ปิดภาคเช้าที่ 1,599.22 จุด ปรับตัวลดลง 0.43 จุด (-0.03%) มูลค่าการซื้อขายกว่า 36,036.62 ล้านบาท โดยการซื้อขายในช่วงเช้านี้ ดัชนีเคลื่อนไหวผันผวน ปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,583.96 จุด และปรับขึ้นจุดสูงสุดที่ 1,602.65 จุด
ในขณะที่ดัชนีกลุ่มแบงก์ ปรับตัวแดนลบ โดยดัชนีอยู่ที่ระดับ 373.21 จุด ลดลง 4.69 จุด (-1.24%) มูลค่าการซื้อขาย 6,962.40 ล้านบาท (เมื่อเวลา 14.23น.)
ราคาหุ้นกลุ่มธนาคารล่าสุดเมื่อเวลา 14.23น.
KBANK ราคาอยู่ที่ 132.00 บาท ปรับตัวลดลง -4.00 บาท
SCB ราคาอยู่ที่ 101.00 บาท ปรับตัวลดลง 1.50 บาท
BAY ราคาอยู่ที่ 29.00 บาท ปรับตัวลดลง 0.50 บาท
BBL ราคาอยู่ที่ 156.00 บาท ปรับตัวลดลง 2.00 บาท
CIMBT ราคาอยู่ที่ 0.82 บาท ปรับตัวลดลง 0.01 บาท
KKP ราคาอยู่ที่ 66.50 บาท ปรับตัวลดลง 0.50 บาท
LHFG ราคาอยู่ที่ 1.12 บาท ปรับตัวลดลง 0.03 บาท
TCAP ราคาอยู่ที่ 43.75 บาท ปรับตัวลดลง 0.25 บาท
KTB ราคาอยู่ที่ 17.10 บาท ปรับตัวขึ้น 0.10 บาท
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้าที่ผ่านมาค่อนข้างผันผวน ช่วงเปิดตลาดร่วงลงแรงกว่า 15 จุด ก่อนจะ รีบาวด์ กลับขึ้นมาปิดลบเล็กน้อยตาม sentiment ของปัจจัยต่างประเทศ
ทั้งภาพรวมของตลาดหุ้นไทยยังมีความกังวลผลกระทบจากการล้มของ Silicon Valley Bank (SVB) ที่ยังคงต้องติดตามว่าจะลุมลามไปยังธนาคารอื่นๆในสหรัฐหรือไม่ แม้ว่าในช่วงเช้าวันนี้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ประกาศมาตรการฉุกเฉินเพื่อเข้าช่วยเหลือผู้ฝากเงิน และตั้งกองทุนช่วยสภาพคล่อง นับเป็นปัจจัยหนุนระยะสั้น
แนวโน้มช่วงบ่ายคาดว่าตลาดฯยังแกว่งผันผวนต่อไป โดยมีปัจจัยทางฝั่งสหรัฐที่นักลงทุนต้องติดตาม คือ การรายงานตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐคืนพรุ่งนี้ และทิศทางการดำเนินนโยบายการเงินของเฟดจะเป็นอย่างไร โดยเฉพาะการเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ย หลังจากเกิดเหตุการณ์ SVB ล้ม พร้อมให้แนวต้าน 1,610 จุด และแนวรับ 1,590 จุด