BKIเผยแผนปี 66 เพิ่มงบลงทุนไอที700ล้านตั้งเป้าเบี้ยรับรวมโต12.5%

24 มี.ค. 2566 | 23:58 น.

BKIตั้งเป้าปี66เบี้ยประกันภัยรับรวม 3หมื่นล้านบาทโต 12.5% พร้อมเพิ่มงบไอที 700ล้านพัฒนาระบบลดเสี่ยงไซเบอร์-ผลิตภัณฑ์ พลิกธุรกิจยั่งยืน

นายชัย โสภณพนิช ประธานกรรมการ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI เปิดเผยถึงแนวโน้มการลงทุนปี 2566

โดยระบุว่าการสร้างรายได้สุทธิจากการลงทุนในปีที่ผ่านมา 6,254.6ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากการขายหลักทรัพย์ซึ่งเป็นหุ้นที่มีราคาต้นทุนที่ถูก และมีการซื้อหุ้นกลับมา 

สำหรับระยะต่อไปมองว่าตลาดหุ้นไทยมีโอกาสเติบโตอีก เพราะธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ยังปรับขึ้นดอกเบี้ย และความไม่แน่นอนสถาบันการเงินทั้งในสหรัฐและยุโรปซึ่งจะส่งผลกระทบตลาดหุ้นและเศรษฐกิจ

นักเศรษฐศาสตร์มองสหรัฐยังขึ้นดอกเบี้ยอีก2ครั้งและดอกเบี้ยสหรัฐจะคงที่กลางปี2566 ซึ่งเราน่าจะเข้าซื้อหุ้นกลับมากขึ้นในครึ่งหลังกลางปีนี้โดยเตรียมเงิน 1,000ล้านบาททยอยเข้าไปลงทุนโดยลงทุนในหุ้นที่ให้ผลตอบแทนสูงและ

สม่ำเสมอเช่น กล่มแบงก์เกือบทุกแบงก์และปีนี้กลุ่มแบงก์น่าจะมีกำไรดีกว่าปีที่แล้ว จากทิศทางดอกเบี้บขาขึ้น ซึ่งเราเน้นลงทุนระยะยาว3-5ปี"

แนวทางการลงทุนของบริษัทยังให้ความสำคัญกับหุ้นของบริษัทขนาดกลางอยู่ในตลาด20-30ปี เช่นธุรกิจหลอดไฟรถยนต์  กลุ่มอาหาร  กลุ่มเคมิคอล นอกจากหุ้นในกลุ่มทั้ง
BDMS, BBL , BLA  โดยเฉพาะหุ้น BBL และ BLA เราเข้าไปซื้อแล้ว 70-80% คาดว่าจะใช้เงินเข้าซื้อ 500ล้านบาท

นายอภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน์ ประธานคณะผู้บริหารและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ BKIกล่าวถึงแนวโน้มตลาดประกันวินาศภัยไทยปี 2566 ว่า ภาพรวมธุรกิจจะได้รับผลบวกจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศที่มีความชัดเจน 

ทั้งกิจกรรมต่างๆ ที่กลับมาดำเนินการได้ตามปกติมากขึ้น ภายหลังการคลี่คลายของสถานการณ์ระบาดโควิด-19  เช่นจำนวนนักท่องเที่ยวที่คาดว่าจะมีประมาณ 28 ล้านคนแม้จะยังไม่กลับไปสู่ระดับ 40ล้านคนเท่ากับระดับก่อนโควิดแต่สะท้อนการเติบโตแบบก้าวกระโดด
อีกทั้งแนวโน้มค่าใช้จ่ายต่อหัวก็สูงขึ้นด้วย  รวมถึงกำลังรอความชัดเจน(เดือนมิ.ย-ก.ค.เกี่ยวกับนโยบายจัดเก็บค่าธรรมเนียมจากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยในอัตรา 150-300 บาทต่อคน ซึ่งจะนำค่าธรรมเนียมส่วนหนึ่งเป็นเบี้ยประกันภัยสุขภาพของนักท่องเที่ยวต่างชาติคาดไว้ประมาณ1,000ล้านบาท
ขณะเดียวกันธุรกิจประกันวินาศภัยยังได้รับอานิสงค์จากยอดจำหน่ายรถยนต์ใหม่ และยานยนต์ไฟฟ้า(EV)ในปีนี้ที่คาดว่าจะเติบโตเป็นบวกต่อเนื่องเป็นปีที่สองอีกด้วย


ทั้งนี้ สมาคมประกันวินาศภัยไทย คาดว่า ธุรกิจประกันภัยในปี 2566 นี้จะมีเบี้ยประกันภัยรับรวมขยายตัว 4.5-5%โดยBKI ตั้งเป้าเบี้ยประกันภัยรับรวมอยู่ที่ 30,000 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโตในอัตรา 12.5% ( จากปีที่แล้วมีเบี้ยประกันภัยรับ 26,676
.3ล้านบาทเติบโต 8.8%) 
โดยมาจากเบี้ยประกันภัยรถยนต์ประมาณ 13,096 ล้านบาท เติบโต 20% และ เบี้ยประกันภัยที่ไม่ใช่ประกันภัยรถยนต์(Non-Motor) ประมาณ 16,904 ล้านบาทซึ่งเป็นสัดส่วน 47%และ  53%ตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางปัจจัยที่ท้าทาย เช่น กำลังซื้อของผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น และอัตราเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูง รวมถึงยอดสินเชื่อที่อยู่อาศัยปล่อยใหม่ที่อาจได้รับผลกระทบจากการยกเลิกผ่อนปรนมาตรการสินเชื่อที่อยู่อาศัยต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV) ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)

และ ราคาบ้านอยู่อาศัยที่ปรับเพิ่มขึ้นจากต้นทุนการก่อสร้างที่สูงขึ้น ซึ่งอาจส่งผลต่อปริมาณเบี้ยประกันอัคคีภัย เช่นเดียวกับประกันภัยทางทะเล และ ขนส่ง ที่ได้รับผลกระทบจากการส่งของของประเทศที่ตัวลงตามสภาพของเศรษฐกิจโลก

นายอภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน์กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะที่ปีนี้บริษัทจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ให้ความคุ้มครองพิเศษมากขึ้นเพื่อให้ครอบคลุมทุกไลฟสไตล์โดยขยายความคุ้มครองกลยุทธ์ที่แตกต่างและความมุ่งมั่นเพื่อยกระดับการบริการ จึงพัฒนาแผนกันประกันภัยรถยนต์ 2+ Super Special 

กับ ความพิเศษที่มากขึ้นด้วยการบวกเพิ่มความคุ้มครองความเสียหายจากการพลิกคว่ำหรือตกข้างทางและพิเศษยิ่งขึ้นกับความคุ้มครองความเสียหายต่อกระจกบังลมรถยนต์อันเนื่องมาจากอุบัติเหตุที่นอกเหนือจากการชนเช่นหินกระเด็นใส่กิ่งไม้หล่นใส่หรือกระทบกับวัตถุต่างๆ  ทั้งนี้ ประกันภัยรถยนต์ 2 Plus Super Special คิดเบี้ยประกันภัยเริ่มต้นเพียง 7,300 บาท

 ส่วนแผนประกันภัยรถยนต์สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า(EV) ซึ่งบริษัทได้รับประกันภัยรถยนต์EV ยอดสะสมทั้งรถใหม่และต่ออายุปีที่2หรือปีที่ 3 ราว2,000 คันเติบโต 6% คิดเป็นเบี้ยประกันภัยกว่า 100 ล้านบาท(ณ.มี.ค.66) และในปีนี้คาดว่าจะมีเบี้ยประกันภัยรวมไม่ต่ำกว่า 120-140 ล้านบาทประมาณ 1,200คันคิดเป็นการเติบโตในอัตรา 9%จากพอร์ตรถยนต์EVจำนวน 13,700คัน

นอกจากนี้บริษัท มีแผนประกันภัยที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ เตรียมเสนอแผนประกันภัยสุขภาพ+จิตเวช โดยคาดว่าจะสามารถนำเสนอขายได้ในช่วงกลางปีนี้และมีแผน ประกันภัยนักดำน้ำ ซึ่งความคุ้มครองได้ออกแบบเพื่อรองรับความเสี่ยงภัยด้านต่างๆของนักดำน้ำโดยครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลการเคลื่อนย้ายเพื่อรักษาพยาบาลฉุกเฉิน   เงินชดเชยต่างๆ เช่น อุปกรณ์ดำน้ำเสียหายหรือการยกเลิกโปรแกรมท่องเที่ยวดำน้ำ โดยมีให้เลือกตั้งแบบรายทริปสูงสุด 30 วันต่อการเดินทางในแต่ละครั้ง

ที่สำคัญ BKIได้จัดงบประมาณการลงทุนด้านไอที ปีนี้วงเงิน 700ล้านบาทซึ่งเพื่มขึ้นจาก 400ล้านบาทในปีที่แล้เพื่อการพัฒนาระบบ  ผลิตภัณฑ์ต่างๆ 

รวมถึงต่อยอดDATA-Driven Organization ซึ่งใช้เป็นฐานซึ่งใช้ฐานข้อมูลในการขับเคลื่อนธุรกิจให้ก้าวไปข้างหน้า และการสร้างฐานข้อมูลใหม่แบบองค์รวมบน
 High-End Technologyและครอบคลุมถึง แผนจะเพิ่มระดับการป้องกันกับความปลอดภัยผ่านการติดตั้งENdpoint  Detection and Response(EDR) และจัดจ้างศูนย์เฝ้าระวังความมั่นคงปลอดภัยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศหรือSOC(SOC;Security Operation Center )
นอกจากนี้บริษัทมีแผน ยกระดับอู่ซ่อมในสัญญาที่มีมากกว่า 580 แห่ง ให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ปรับลดระยะเวลาการจ่ายค่าซ่อมอู่ในสัญญาภายใน 3 วันทำการ พัฒนาปรับปรุงระบบ Web Partner

สำหรับตัวแทนเพื่อขยายช่องทางการประกันภัยไปสู่กลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย พร้อมขยายธุรกิจกับคู่ค้ารายใหม่ ยกระดับคุณภาพด้านสินไหม

อย่างไรก็ตามบริษัทตั้งเป้าหมายเป็นบริษัทที่มุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ด้วยการมีเสถียรภาพและความแข็งแกร่งทางการเงินโดยคำนึงถึงหลักธรรมาภิบาล สังคม และสิ่งแวดล้อม