ทิศทางการลงทุนในตลาดหุ้นไทยยังแกว่งตัวผันผวน จากความวิตกของนักลงทุนถึงแนวโน้มการเกิดวิกฤตสภาพคล่องในภาคธนาคารจากทั้งฝั่งยุโรปและสหรัฐ ล่าสุดกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ออกมาเตือนว่า ความเสี่ยงต่อความมั่นคงทางการเงินปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยปีนี้จะเป็นปีที่ท้าทายอีกปีที่เป็นผลจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 สงครามยูเครน และการขึ้นดอกเบี้ย
ในงานสัมนา SET in The Rabbit Hole: หุ้นไทยปีกระต่าย 2023 จัดโดยหนังสือพิมพ์ ฐานเศรษฐกิจและ Than Digital เมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา ช่วง “เอาตัวรอด ปั้นพอร์ต ช่วงตลาดวิกฤติิ” ได้รับเกียรติจากนักลงทุนรุ่นใหม่ทั้งนายชนนพล ชนุหะชา เจ้าของเพจ One2Ten และนายมานิตย์ ศรายุทธิกรณ์ นักลงทุนเจ้าของเพจ Bert Manit มาบอกเล่าประสบการณ์รับมือกับความผันผวนของตลาดหุ้น
“ชนนพล” เปิดเผยว่า สิ่งสำคัญที่นักลงทุนต้องคำนึงในการเข้าซื้อหุ้นและมีโอกาสที่จะชนะวิกฤตคือ
“เมื่อเกิดการขาย ก็จะเกิดการซื้อเป็น mindset สำคัญของการลงทุนที่รู้กัน ขณะเดียวกัน มีเรื่องจริงที่ว่า คนที่รวยในช่วงวิกฤติทุกคน ต่างถือเงินสด ไม่ได้ถือหุ้น”นายชนนพลกล่าว
อย่างไรก็ตาม ภาวะวิกฤติ อยากแนะให้นักลงทุน มองหาความยั่งยืนเป็นแกนหลักในการตัดสินใจ โดยประเมินจาก
ซึ่งทั้งหมดจะเป็นตัวชี้ทิศทางได้ว่า ในอนาคตหุ้นนั้น มีโอกาสฟื้นหรือไม่
“ชนนพล” ให้แนวรับสำคัญของหุ้นไทยปีนี้ไว้ที่ 1,500 จุด พร้อมแนะว่า การเข้าซื้อหุ้นในช่วงวิกฤติ จะประเมินยากว่า จุดต่ำสุดของราคาอยู่ตรงไหน แต่นักลงทุนต้องหา จุดราคาที่พอใจให้เจอ ภายใต้แกนหลักปั้นพอร์ตอย่างมั่งคั่ง หุ้นบางตัวอาจต้องถือยาวมากกว่า 2-3 ปี แต่ผลตอบแทนกำไรคุ้มค่า 50-100% ก็มีโอกาสจะเกิดขึ้น ซึ่งล้วนต้องอาศัยความอดทน ว่ากันว่า การลงทุน ไม่ต่างจากการวิ่งมาราธอน เป็นการลงทุนระยะยาวถึงจะชนะ
ด้าน “มานิตย์” บอกเล่าว่า อยู่ในตลาดมา 8 ปี เป็นนักลงทุนที่เน้นเก็งกำไรหุ้นระยะสั้น 1 สัปดาห์-2 เดือน แต่ไม่ใช่เล่นรายวัน เริ่มเติบโตจากหุ้นไทย โดยถือกลยุทธว่า ถ้าจะเจ็บต้องไม่ให้เจ็บหนัก โดยตั้งเกณฑ์ไว้จะไม่ให้เสียหายเกิน 20 % แล้วต้องตัดขายจำกัดความเสียหายทันที และเมื่อได้ ก็แบ่งขายชดเชยความเสียหายเดิมก่อน
“วิกฤตเป็นเรื่องที่ต้องกลัว แต่กลัวแล้วก็เหมือนแบทแมนที่กลัวค้างคาว แต่ต้องเข้าไปอยู่ใกล้ชิดเพื่อเอาชนะความกลัวค้างคาว คือต้องเข้าไปเรียนรู้ไปหาความจริงในวิกฤติินั้นๆ จึงจะเอาชนะวิกฤติิได้” นายมานิตย์กล่าว
อย่างไรก็ตาม ในทางเศรษฐกิจมีวัฏจักร 4 ระยะ คือ ระยะฟื้นตัว เป็นช่วงขาขึ้นของตลาด ทุกอย่างอยู่ในช่วงเติบโต เมื่อโตขึ้นไปเรื่อยๆ ก็จะเป็นช่วงเฟื่องฟู เกิดการลงทุน มีการเก็งกำไร จนถึงขีดสุด เมื่อเก็งกำไรมากเข้าๆ ที่สุดก็เป็นฟองสบู่ที่ต้องแตก เกิดภาวะถดถอย มีความเสียหายต่างๆ กลายเป็นภาวะตกต่ำ ซึ่งเมื่อถึงจุดต่ำสุดแล้ว ในที่สุดก็จะเริ่มกลับมาฟื้นอีกรอบ เป็นวัฏจักรที่ต้องเกิด
เทคนิคการเล่นหุ้นคือ ต้องเข้าใจกรอบใหญ่ของวัฏจักรเศรษฐกิจ ประกอบกับการดูทิศทางหรือแนวโน้มรายสัปดาห์หรือรายเดือน และเมื่อเห็นแนวโน้มแล้วต้องกล้าตัดสินใจ ถ้าทิศทางมีแนวโน้มจะลง ก็ต้องกล้า Cut Lose ตัดขายเพื่อจำกัดความเสียหาย
กลยุทธ์การลงทุนหุ้นในช่วงวิกฤติิ จึงต้องยึดหลัก 4 ประการ คือ
สำหรับสถานการณ์ตลาดหุ้นเวลานี้ “มานิตย์” รับว่า ถือเงินสดไว้เยอะหน่อย ประมาณ 50% ยังไม่จัดหนัก เกาะติดข่าวสารให้พร้อมช้อนได้ทันทีที่มีโอกาส
หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 43 ฉบับที่ 3,875 วันที่ 2 - 5 เมษายน พ.ศ. 2566