ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 34,029.69 จุด พุ่งขึ้น 383.19 จุด หรือ +1.14%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,146.22 จุด เพิ่มขึ้น 54.27 จุด หรือ +1.33% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,166.27 จุด พุ่งขึ้น 236.93 จุด หรือ +1.99%
ทั้งนี้ ดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีพุ่งขึ้นกว่า 1% หลังกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต เพิ่มขึ้นเพียง 2.7% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปี
ซึ่งชะลอตัวลงจากระดับ 4.9% ในเดือนก.พ. โดยดัชนี PPI เดือนมี.ค.ถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2564 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3%
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 239,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 8 เม.ย. จากระดับ 228,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้า ซึ่งปรับตัวขึ้นสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 232,000 ราย
การเปิดเผยดัชนี PPI มีขึ้นเพียงวันเดียวหลังจากสหรัฐรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ปรับตัวขึ้น 5.0% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 5.1% และชะลอตัวจากระดับ 6.0% ในเดือนก.พ.
เดวิด คาร์เทอร์ นักวิเคราะห์จาก JPMorgan Private Bank กล่าวว่า การชะลอตัวของดัชนี PPI และดัชนี CPI ในเดือนมี.ค. ประกอบกับตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานที่เพิ่มขึ้นสูงกว่าคาดนั้น สะท้อนให้เห็นว่าภาวะเงินเฟ้อและตลาดแรงงานของสหรัฐเริ่มคลายความร้อนแรง ซึ่งอาจเป็นปัจจัยที่จะทำให้เฟดใกล้ยุติวงจรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
รายงาน FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า หลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลล่าสุดด้านแรงงานและเงินเฟ้อ นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาส 1 ใน 3 ที่เฟดจะระงับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 2-3 พ.ค. โดยคาดว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 4.75% - 5.00%
หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีซึ่งมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย พุ่งขึ้นนำตลาด โดยหุ้นแอปเปิ้ล ทะยานขึ้น 3.41% หุ้นไมโครซอฟท์ พุ่งขึ้น 2.24% หุ้นอะเมซอน พุ่งขึ้น 4.67% หุ้นเมตา แพลตฟอร์มส์ พุ่งขึ้น 2.97% หุ้นอัลฟาเบท ปรับตัวขึ้น 2.67%
หุ้นเน็ตฟลิกซ์ พุ่งขึ้น 4.6% หลังจากนักวิเคราะห์ของบริษัท Wedbush แสดงความเห็นว่า จำนวนสมาชิกใหม่ของเน็ตฟลิกซ์ที่เพิ่มขึ้นนั้นจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการทำกำไรให้กับบริษัท
หุ้นสายการบินเดลต้า แอร์ไลน์ ร่วงลง 1.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรที่ต่ำกว่าคาดในไตรมาส 1/2566
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งรวมถึงยอดค้าปลีกเดือนมี.ค., การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมี.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนเม.ย.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังรอดูรายงานผลประกอบการไตรมาส 1/2566 ของธนาคารรายใหญ่ในวันนี้เช่นกัน ซึ่งได้แก่เจพีมอร์แกน เชส, ซิตี้กรุ๊ป และเวลส์ ฟาร์โก