ดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า มิลเลนเนียม กรุ๊ปฯ MGC-ASIA มีความพร้อมที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ซึ่งจะเพิ่มศักยภาพการขยายธุรกิจ ตามแผนภายใต้ 4 กลยุทธ์หลัก คือ
“นอกจากกลยุทธ์ดังกล่าว กลุ่มบริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการยกระดับความเป็นอยู่ของผู้คนในสังคม สิ่งแวดล้อมและธรรมาภิบาล ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อมุ่งสู่องค์กรคาร์บอนต่ำ”ดร.สัณหวุฒิกล่าว
ทั้งนี้บริษัทได้วางแผนยุทธศาสตร์ขยายระบบนิเวศทางธุรกิจ MGC-ASIA Ecosystem ด้วยโมเดลธุรกิจที่โดดเด่นและแตกต่างจากผู้ประกอบการรายอื่น ผ่านการขยายฐานผลิตภัณฑ์ บริการ และกลุ่มลูกค้าให้ครอบคลุม เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งและศักยภาพการเติบโต สามารถตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์แห่งการเดินทาง (Lifestyle Mobility) ได้อย่างครบวงจร
ปัจจุบัน ระบบนิเวศทางธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ มีสินค้าและบริการที่หลากหลาย ประกอบด้วย
นอกจากนี้ มิลเลนเนียม กรุ๊ปฯ MGC-ASIA ได้ร่วมทุนกับ บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด(มหาชน) จัดตั้ง บริษัท อัลฟา เอกซ์ จำกัด ขยายธุรกิจให้บริการทางการเงินอย่างครบวงจร ครอบคลุมสินเชื่อเช่าซื้อ ลีสซิ่ง และสินเชื่อรีไฟแนนซ์ สำหรับยานยนต์และมารีนในระดับลักชัวรี่และร่วมทุนกับฮาวเด้น กรุ๊ป หนึ่งในโบรกเกอร์รายใหญ่ที่สุดในยุโรปและมีชื่อเสียงระดับโลก ขยายธุรกิจนายหน้าประกันภัย ภายใต้บริษัท ฮาวเด้น แมกซี่ อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด ซึ่งธุรกิจทั้งสองเป็นธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องและส่งเสริมธุรกิจหลักของกลุ่มบริษัทฯ
นางสาวเจิดนภางค์ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงินและบัญชีกลุ่มบริษัท มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด (มหาชน)กล่าวว่า ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มิลเลนเนียม กรุ๊ปฯ MGC-ASIA สามารถสร้างการเติบโตของรายได้อย่างแข็งแกร่งและต่อเนื่อง แม้เผชิญความท้าทายจากโควิด-19 และปัญหาซัพพลายเชนดิสรัปชัน แต่ด้วยการมีพอร์ตธุรกิจที่หลากหลาย รวมทั้งการบริหารที่ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์อย่างรวดเร็ว ทำให้ภาพรวมรายได้ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง
โดยผลการดำเนินงานปี 2563 2564 และ 2565 กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้รวม 20,275.3 ล้านบาท 21,350.3 ล้านบาท และ 23,076.2 ล้านบาท ตามลำดับ เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 6.7% ต่อปี เนื่องจากเศรษฐกิจที่ทยอยฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีกำไรสุทธิปี 2563 2564 และ 2565 อยู่ที่ 188.8 ล้านบาท 295.5 ล้านบาท และ 595.6 ล้านบาท ตามลำดับ จากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายและบริการ การเพิ่มขึ้นของอัตรากำไรขั้นต้น ในขณะที่สัดส่วนต้นทุนการจัดจำหน่ายและค่าใช้จ่ายในการบริหารต่อรายได้รวมเพิ่มขึ้นเล็กน้อย
สำหรับการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ครั้งนี้ เพื่อรองรับแผนงานขยายการลงทุนในบริษัท อัลฟา เอกซ์ จำกัด ลงทุนในบริษัท มาสเตอร์ มอเตอร์ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด ขยายศูนย์ให้บริการหลังการขายและซ่อมบำรุงรถยนต์อิสระ ปรับโครงสร้างเงินทุนผ่านการชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการดำเนินงาน รองรับการเติบโตในอนาคต
นายวราห์ สุจริตกุล ประธานกรรมการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายกล่าวว่า บมจ.มิลเลนเนียม กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวนไม่เกิน 280 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นไม่เกิน 25% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้
ล่าสุดได้กำหนดราคาเสนอขาย IPO ที่ 7.95 บาทต่อหุ้น และจะเปิดให้นักลงทุนจองซื้อในวันที่ 18 – 20 เมษายน 2566 โดยคาดว่าจะสามารถนำหุ้น MGC เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ ภายในเดือนเมษายน 2566 นี้ โดยมองว่าราคาดังกล่าวมีความสอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานและศักยภาพการเติบโตในอนาคต