ปิดตลาด "PLT" เทรดวันแรก ต่ำกว่าราคาจอง 18.71%

27 เม.ย. 2566 | 10:49 น.
อัปเดตล่าสุด :27 เม.ย. 2566 | 10:53 น.

"PLT" ผู้ให้บริการธุรกิจขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ปิดเทรดวันแรกที่ 1.26 บาท ปรับตัวลดลง 0.29 บาท (-18.71%) จากราคา IPO ที่ 1.55 บาท

หลังปิดตลาดหุ้นไทยวันนี้ (27 เม.ย. 66) เมื่อเวลา 17.00น. ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น บริษัท พีลาทัส มารีน จำกัด (มหาชน) "PLT" ผู้ให้บริการธุรกิจขนส่งก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ทั้งทางเรือและทางรถ ที่เข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เป็นครั้งแรก

ปิดราคาต่ำกว่าจองซื้อมาปิดที่ระดับ 1.26 ปรับตัวลดลง 0.29 บาท (-18.71%) ต่ำกว่าราคาจองซื้อ IPO ที่ 1.55 บาท

โดยในช่วงของเปิดทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 1.74 บาท เพิ่มขึ้น 0.19 บาท หรือ 12.26% จากราคา IPO ที่ 1.55 บาท

ภาพประกอบ ราคาหุ้น "PLT"

ด้านบริษัทหลักทรัพย์(บล.) "ทิสโก้" ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า บริษัท พีลาทัส มารีน จำกัด (มหาชน) PLT เป็นผู้ให้บริการขนส่ง LPG ทางเรือ และรถที่มีคู่แข่งน้อย มีความชำนาญในการเดินเรือ และมีสัญญาระยะยาวกับลูกค้า LPG รายใหญ่ๆ ของประเทศ

รวมทั้งบริษัทมีแผนขยายกองเรือ 5 ลำเป็น 24 ลำในช่วง 2 ปีข้างหน้า และรถด้วย คาดจะหนุนกำไร 3 ปีข้างหน้าโตเฉลี่ยปิ้ละ 22% ประเมินเป้าพื้นฐานอยู่ที่ 2 บาท มี Upside 29% จาก IPO ที่ 1.55 บาท แนะนำ"ซื้อ"

ขณะที่ บล."ทรีนีตี้" ระบุว่า ความน่าสนใจในการลงทุน PLT มาจากการเป็นธุรกิจที่มีรายได้ และกำไรอย่างสม่ำเสมอจากสัญญาระยะยาวจากลูกค้าหลักแตกต่างกับบริษัทเดินเรือทั่วไปที่รายได้และกำไรขึ้นลงตามวัฏจักร รวมทั้งเป็นผู้นำและมีความเชี่ยวชาญในการขนส่งก๊าซ LPG ในประเทศที่ครอบคลุมทั้งทางบก และน้ำ

นอกจากนี้ยังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าและมีประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจกับ CLMV มีผู้เล่นในตลาดน้อยราย เนื่องจากเป็นธุรกิจที่ต้องใช้เงินลงทุนสูงต้องมีความชชำนาญและประสบการณ์โดยปัจจุบัน market share ของบริษัทอยู่ที่ราว 60%

ทั้งนี้ประเมินแนวโน้มผลประกอบการในปี 2566 กำไรสุทธิจะอยู่ที่ 103 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิ 65.6% ซึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่มจำนวนกองเรือ กองรถ และการขยายธุรกิจไปยังประเทศเวียดนาม

ขณะที่ปี 2567 กำไรสุทธิจะอยู่ที่ 121 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิ 17.7% จากการเพิ่มขึ้นของกองเรือและการได้รับสัญญาธุรกิจเดินเรือในประเทศและกลุ่ม CLMV เพิ่ม

โดยได้ให้ราคาเหมาะสมปี 66 ที่ราคา 2.10 บาท จากการอิง EPS ปี 2566 ที่ 0.11 บาท และ P/E ที่ 19.4เท่า คิดเป็น PEG ที่ 1เท่า (CAGR ปี 2565–2569 อยู่ที่ 19.4%)