สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้สั่งการให้ บริษัท สตาร์ค คอร์ปอเรชั่นจำกัด (มหาชน) "STARK" ชี้แจงข้อเท็จจริง และความคืบหน้าในการดำเนินการ รวมทั้งจัดให้มีการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ เกี่ยวกับการขาย ลูกหนี้ รายการบัญชีอื่นที่เกี่ยวข้อง และการรับโอนเงินของกลุ่มบริษัท
พร้อมทั้งให้นำส่งคำชี้แจงภายใน 7 วัน รวมทั้งนำส่งผลการตรวจสอบเพิ่มเติมภายใน 30 วัน พร้อมทั้งเปิดเผยข้อมูลผ่านระบบสารสนเทศของ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)
ทั้งนี้สืบเนื่องจาก STARK ไม่สามารถจัดทำและส่งงบการเงินงวดประจำปี 2565 ภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดและทาง ก.ล.ต. พบข้อเท็จจริงว่า ผู้สอบบัญชีของ STARK ได้ตรวจพบการทำธุรกรรมที่อาจมีความผิดปกติ โดยอยู่ระหว่างให้ผู้เชี่ยวชาญเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงตามประเด็นข้อสังเกตของผู้สอบบัญชีเพิ่มเติมเป็นกรณีพิเศษ
เนื่องจากกรณีข้างต้นอาจทำให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับความถูกต้องของงบการเงินรวมของ STARK และอาจมีผลกระทบต่อสิทธิประโยชน์ของผู้ถือหลักทรัพย์หรือต่อการตัดสินใจลงทุน
ก.ล.ต. จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 58 (2) แห่ง พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 สั่งการให้บริษัทชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องและความคืบหน้าของการดำเนินการต่าง ๆ ต่อ ก.ล.ต. ภายใน 7 วัน นับแต่วันที่ 17 พฤษภาคม 2566
นอกจากนี้เนื่องจากขอบเขตการตรวจสอบบัญชีเพิ่มเติมเป็นกรณีพิเศษ ที่ผู้เชี่ยวชาญอยู่ระหว่างการตรวจสอบอาจยังไม่เพียงพอที่จะสามารถสรุปผลกระทบต่อความถูกต้องของงบการเงินรวมของ STARK หรือการทำธุรกรรมที่อาจไม่เหมาะสมได้
ก.ล.ต. จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 58 (3) แห่งพระราชบัญญัติฉบับเดียวกัน สั่งการให้ STARK ขยายขอบเขตการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษเพิ่มเติม
โดยทีมผู้เชี่ยวชาญที่ทำหน้าที่ตรวจสอบบัญชีเพิ่มเติมเป็นกรณีพิเศษ หรือ ให้ผู้สอบบัญชีรายอื่นที่สังกัดสำนักงานสอบบัญชีหนึ่งในสำนักงานสอบบัญชีขนาดใหญ่
ยกเว้นสำนักงานสอบบัญชีที่เคยเป็นผู้สอบบัญชีของ STARK ในปี 2564 และให้นำส่งรายงานผลการตรวจสอบต่อก.ล.ต. ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ 17 พฤษภาคม 2566