นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) "STARK" กล่าวยืนยันต่อที่ประชุม Public Presentation ของ STARK เพื่อชี้แจงปัญหาต่าง ๆ ต่อผู้ถือหุ้นในช่วงบ่ายวันนี้ ว่า การกลับมาเทรดของหุ้น STARK ที่จะมีในช่วงวันที่ 1-30 มิ.ย. 66 นี้ หลังตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดให้มีการ "ซื้อ-ขาย" ได้หลังจากขึ้นเครื่องหมาย SP ครบ 3 เดือน
โดยขอยืนยันว่าจะ "ไม่ขายหุ้น STARK" ออกอย่างแน่นอน เนื่องจากตั้งใจที่จะเข้ามาบริหารงานใน STARK อย่างเต็มที่ ทำให้ตัดสินใจลาออกจากการเป็นกรรมการของ บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) "TOA"
พร้อมกันนี้การตัดสินใจเข้ามาทำงานเต็มตัว เพื่อกลับมาพลิกฟื้น STARK ให้กลับมาแข็งแรง และมีความน่าเชื่อถือ ให้ธุรกิจสามารถเดินหน้าได้อย่างเต็มที่ รวมทั้งเป็นการรักษาผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นของ STARK ทุกคน
"หลังครบกำหนด SP ผมยืนยันว่าในส่วนหุ้นที่ผมถืออยู่ จะไม่มีการขายออกแน่นอน แต่คนอื่นผมไม่ทราบ ส่วนตัวผมมีความตั้งใจเข้ามาเดินหน้าธุรกิจของ STARK อย่างเต็มที่ เพื่อพลิกฟื้นบริษัทนี้ให้กลับมาเติบโต สร้างความน่าเชื่อถือ" นายวนรัชต์ กล่าว
ขณะที่การทำ "Special Audit" ล่าสุดยังคงเดินหน้าร่วมกับผู้สอบบัญชีหลักอย่าง บริษัท ไพร้ซวอเตอร์เฮาส์ คูเปอร์ส เอบีเอเอส จำกัด (PwC) หลังจากงบประจำปี 65 ได้ตรวจพบธุรกรรมที่อาจมีความผิดปกติ และอาจเข้าข่ายการกระทำทุจริต ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบของผู้ตรวจสอบบัญชี และผู้ที่เกี่ยวข้อง
รวมทั้งคณะกรรมการบริหารของบริษัทชุดใหม่ที่มีการแต่งตั้งขึ้นมา อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบธุรกรรมที่เข้าข่ายการทุจริตในเชิงลึกเช่นกัน และหากการตรวจสอบออกมาแน่ชัด บริษัทจะดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดให้ถึงที่สุด
อย่างไรก็ตามงบการเงินประจำปี 65 ของ STARK คาดว่าจะสามารถนำส่งได้ภายในวันที่ 16 มิ.ย. 66 เพื่อให้นักลงทุนประกอบการตัดสินใจในการลงทุน ในช่วงกลับมาเปิดการซื้อขายชั่วคราวระหว่างวันที่ 1-30 มิ.ย. 66
นอกจากนี้ทาง STARK ยังคงมีการดำเนินธุรกิจตามปกติทั้งในไทย และเวียดนาม โดยยังคงมีออเดอร์เข้ามา และมีการผลิตเพื่อส่งมอบให้ลูกค้าตามปกติ
รวมทั้งล่าสุดทางบริษัทได้พา ผู้ถือหุ้นกู้ ดูโรงงานของบริษัทที่สมุทรปราการ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าธุรกิจยังดำเนินการตามปกติ ส่วนการชำระดอกเบี้ยหุ้นกู้บริษัทยืนยันการชำระดอกเบี้ยตามปกติเช่นกัน
โดยทางบริษัทได้ร่วมกับที่ปรึกษาทางกฎหมายในการพิจารณาหลักทรัพย์ค้ำประกันหุ้นกู้ เพื่อทำให้ผู้ถือหุ้นกู้เกิดความมั่นใจ ซึ่งหากพิจารณา และมีความชัดเจนแล้วจะมีการแจ้งให้ทราบอีกครั้ง