จากความกังวลต่อทิศทางการดำเนินกิจการของ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) "STARK" ที่อาจเกิดความเสียหายในการ "ผิดนัดชำระหนี้" กับ "ผู้ถือหุ้นกู้" ซึ่งมีการขายออกไปทั้งสิ้น 5 รุ่น มูลค่ารวมกว่า 9,198.40 ล้านบาท
ทำให้ทางผู้ถือหุ้นกู้ STARK จะมีการนัดรวมพลผู้ถือหุ้นกู้ เพื่อเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อทาง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในวันที่ 12 มิ.ย. 66 ในเวลา 10.00น. รวมทั้งขอให้ตรวจสอบพฤติกรรมผู้สอบบัญชี และเรียกร้องให้ ก.ล.ต. เข้าควบคุมทรัพย์สินของ STARK โดยเร็ว เพื่อป้องกันการถ่ายโยกย้ายทรัพย์สิน และระงับความเสียหายของผู้ถือหุ้น
อีกทั้งผลพวงจากการที่ทางบริษัทยังไม่ส่งงบการเงินของปี 2565 จนทำให้เมื่อวันที่ 31 พ.ค. 2566 ที่ผ่านมา ในการประชุมผู้ถือหุ้นกู้ลงมติ ให้ถือเป็นเหตุผิดนัดชำระหนี้
พร้อมเรียกร้องให้ชำระหนี้ เงินต้นและดอกเบี้ยถึงกำหนดชำระโดยพลัน รวมวงเงิน 2,241 ล้านบาท ในหุ้นกู้ 2 รุ่น STARK239A และ STARK249A นั่นหมายความว่าทาง STARK จะต้องรีบหาเงินมาชำระหนี้หุ้นกู้ 2 รุ่นดังกล่าวภายในระยะเวลา 30 วัน
พร้อมกันนี้ยังต้องจับตาในประเด็นที่มีการขอเลื่อนส่งงบการเงินปี 2565 ถึง 3 รอบ แม้ล่าสุด STARK ได้มีการแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าจะมีการนำส่งข้อมูลทางการเงินในวันที่ 16 มิ.ย. นี้
แม้จะมีการแถลงข่าวยืนยันโดย นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) STARK ว่าทางบริษัทได้ดำเนินการแสวงหาข้อเท็จจริงในเชิงลึกประกอบการสรุปผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม เป็นกรณีพิเศษ (Special Audit)
พร้อมทั้งให้ความร่วมมือกับ DSI และ บก.ปอศ. รวมถึงหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในการดำเนินกระบวนการทางกฎหมาย เพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัท ผู้ถือหุ้น ตลอดจนผู้มีส่วนได้เสียเกี่ยวกับบริษัท แต่ดูเมื่อยังไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นได้
ขณะที่ราคาหุ้น บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) STARK ปิดตลาดวานนี้ (7 มิ.ย. 66) ปรับตัวลดลง 0.03 บาท (-16.67%) มาอยู่ที่ 0.15 บาท มูลค่าการซื้อขาย 184.51 ล้านบาท
โดยทำราคาสูงสุดที่ 0.20 บาท และราคาต่ำสุดที่ 0.15 บาท และนับจาก ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดให้เทรดชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 1 ถึง 7 มิ.ย. 66 ราคาร่วงลงแล้ว 2.23 บาท หรือ -93.69% เทียบจากปิดตลาดล่าสุด