10 หุ้นไทย ยอด NVDR สูงสุด "GULF "ฮอตต่างชาติซื้อ 2.28 พันล้าน

17 มิ.ย. 2566 | 22:05 น.

"10 หุ้นไทย" ยอด NVDR ซื้อ-ขายสูงสุด พบ GULF ต่างชาติซื้อสูงสุด 2,278 ล้านบาท โบรกฯ คาดกำไรปกติ Q2/66 ยังทำได้ระดับสูงสุดใหม่รายไตรมาส แรงหนุนรับรู้รายได้ COD ส่วนหุ้น BDMS ถูกขายมากสุด 1,463 ล้านบาท

ตลาดหุ้นไทย การซื้อขายรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ( 12 -16 มิ.ย.66 ) มีมูลค่า 216,163.77 ล้านบาท ลดลง 13.84 % จากสัปดาห์ก่อนหน้า ดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET Index) ปิดการซื้อขายปลายสัปดาห์ (16 มิ.ย.66) ที่ระดับ 1,559.39 จุด เพิ่มขึ้น 0.28% จากระดับปิดของสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 1,555.11 จุด 

มูลค่าซื้อขายแยกตามกลุ่มนักลงทุน รอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ดังนี้

  • ต่างชาติ ขายสุทธิ 2,957.50  ล้านบาท ยอดซื้อขายสะสมตั้งแต่ต้นปี 66 สถานะขายสุทธิ 103,440.41 ล้านบาท 
  • สถาบัน ซื้อสุทธิ1,497.05 ล้านบาท ยอดซื้อขายสะสมตั้งแต่ต้นปี 66 สถานะซื้อสุทธิ 40.642.91 ล้านบาท  
  • บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ขายสุทธิ 399.53 ล้านบาท ยอดซื้อขายสะสมตั้งแต่ต้นปี 66 สถานะขายสุทธิ 5,948.54 ล้านบาท   
  • รายย่อยซื้อสุทธิ 1,859.98 ล้านบาท ยอดซื้อขายสะสมตั้งแต่ต้นปี 66 สถานะซื้อสุทธิ 68,746.07 ล้านบาท  

ทั้งนี้การซื้อ-ขายหุ้น ผ่านบัญชี “เอ็นวีดีอาร์” (NVDR) ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 16 มิถุนายน 2566   พบว่า

 

10 อันดับหุ้น ที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสูงสุด  ได้แก่

 

  • GULF มูลค่าซื้อสุทธิ 2,278 ล้านบาท
  • CPALL  มูลค่าซื้อสุทธิ 420 ล้านบาท
  • PTTEP มูลค่าซื้อสุทธิ 238  ล้านบาท
  • PTT  มูลค่าซื้อสุทธิ 213 ล้านบาท
  • PTTGC  มูลค่าซื้อสุทธิ 133 ล้านบาท
  • MINT  มูลค่าซื้อสุทธิ 112 ล้านบาท
  • MTC มูลค่าซื้อสุทธิ 95 ล้านบาท
  • CPN  มูลค่าซื้อสุทธิ 92 ล้านบาท
  • SAWAD มูลค่าซื้อสุทธิ 91 ล้านบาท
  • DELTA  มูลค่าซื้อสุทธิ 87 ล้านบาท


10 อันดับหุ้น ที่นักลงทุนต่างชาติขายสูงสุด ได้แก่

  • BDMS มูลค่าขายสุทธิ 1,463 ล้านบาท
  • KBANK มูลค่าขายสุทธิ 704 ล้านบาท
  • BTG มูลค่าขายสุทธิ 334 ล้านบาท
  • ITC มูลค่าขายสุทธิ 261 ล้านบาท
  • LH มูลค่าขายสุทธิ 179 ล้านบาท
  • TU มูลค่าขายสุทธิ 123 ล้านบาท
  • JMT มูลค่าขายสุทธิ 67 ล้านบาท
  • BCH มูลค่าขายสุทธิ 57 ล้านบาท
  • TRUE มูลค่าขายสุทธิ 54 ล้านบาท
  • CBG  มูลค่าขายสุทธิ 48 ล้านบาท

บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ให้มุมมองหุ้น GULF โดยคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายที่ 59.50 บาท แต่ในระยะสั้นหุ้นอาจยังมี Overhang จากปัจจัยการเมือง เชิงกลยุทธ์ จึงยังไม่ต้องรีบเข้าลงทุน  โดยอาจพิจารณาเข้าลงทุนหลังการตั้งรัฐบาลและการกำหนดนโยบายด้านพลังงานมีความชัดเจนแล้ว  

ขณะที่ผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/66 คาดกำไรปกติจะยังสามารถทำระดับสูงสุดใหม่รายไตรมาสได้อีกครั้ง แม้มีการปรับค่า Ft งวด พ.ค.- ส.ค. ลง แต่จะได้แรงหนุนจากการรับรู้รายได้จากการ COD หน่วยที่ 1 ของโรงไฟฟ้า GPD ในวันที่ 31 มี.ค. และต้นทุนก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวลงเร็วกว่าค่า Ft ซึ่งสามารถชดเชยผลกระทบจากค่า Ft ที่ปรับลดลงได้

ราคาหุ้น บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ปรับลดลงแล้ว -15.38% นับตั้งแต่ต้นปี 66  (YTD ) โดยล่าสุด 16 มิ.ย. 2566 ปิดการซื้อขายที่ 46.75 บาท จากราคาปิดเมื่อสิ้นปี 65 ที่ระดับ 55.25 บาท