OTO แจงปมหุ้นร่วงไม่ส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจ ยันปัจจัยพื้นฐานแกร่ง

22 มิ.ย. 2566 | 00:49 น.
อัปเดตล่าสุด :22 มิ.ย. 2566 | 00:56 น.

OTO แจงผ่านตลท.ปมราคาหุ้นบริษัทปรับลดลง เกิดจากปัจจัยภายนอก ไม่ส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจ บริษัทมีปัจจัยพื้นฐานมั่นคง และยังเดินหน้าเข้าร่วมโครงการประมูลของภาครัฐ มูลค่าไม่น้อยกว่า 100 ล้าน

 

วันนี้ 22 มิ.ย.66 นายคณาวุฒิ วรรทนธีรัช ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทวันทูวัน คอนแทคส์ จำกัด (มหาชน) หรือ OTO แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์ ฯ ว่า ตามที่ระหว่างวันที่ 12 มิถุนายน 2566 ถึงปัจจุบัน เกิดการปรับตัวลงของราคาหุ้นของ OTO อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งทำให้ผู้ลงทุนและผู้ที่เกี่ยวข้องมีความกังวลกับเหตุการณ์ดังกล่าว รวมถึงทำให้เกิดการคาดเดาถึงสาเหตุที่ราคาหุ้นของบริษัทมีการปรับตัวอย่างมีนัยสำคัญในช่วงระยะเวลาอันสั้นที่ผ่านมาที่อาจสร้างความเสียหาย และบั่นทอนความน่าเชื่อถือของบริษัท

 

OTO แจงปมหุ้นร่วงไม่ส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจ ยันปัจจัยพื้นฐานแกร่ง

ซึ่งบริษัทได้ดำเนินการร้องขอไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอตรวจสอบรายการซื้อขายหุ้นที่มีลักษณะผิดปกติในช่วงระยะเวลาดังกล่าวแล้ว โดยหากมีความคืบหน้าเกี่ยวกับการตรวจสอบสาเหตุการเปลี่ยนแปลงราคาหุ้นของบริษัท เป็นประการใดบริษัทจะแจ้งให้ผู้ลงทุนทราบต่อไป
 

บริษัทขอเรียนชี้แจง และขอให้ความมั่นใจแก่ผู้ถือหุ้น และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายว่า การปรับตัวลดลงของราคาหุ้นของบริษัทนั้นเกิดขึ้นจากปัจจัยภายนอกและสภาวการณ์อื่น ๆ ซึ่งไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของบริษัท กล่าวคือ การปรับตัวลงของราคาหุ้นบริษัทนั้นไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท ทั้งนี้ในปัจจุบัน สถานะทางการเงิน รวมถึงการดำเนินงานของบริษัทยังมีปัจจัยพื้นฐานที่มั่นคง โดยบริษัทจะยังคงดำเนินธุรกิจตามปกติ

นอกจากนี้บริษัทยังได้เข้าร่วมโครงการประมูลโครงการภาครัฐ ซึ่งมีมูลค่าโครงการไม่น้อยกว่าหนึ่งร้อยล้านบาท โดยโครงการดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณาและประกาศผลผู้ชนะประมูลโครงการ ซึ่งหากมีความคืบหน้าเป็นประการใด บริษัทจะเรียนแจ้งให้นักลงทุนทราบทันที   


 

ในการนี้บริษัทจึงขอให้ผู้ถือหุ้น นักลงทุน และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย เชื่อมั่นว่าบริษัทเดินหน้าดำเนินธุรกิจตามแผนธุรกิจที่บริษัทได้วางไว้เพื่อประโยชน์ของผู้ถือหุ้นทุกราย และบริษัทยังคงมีผลประกอบการที่ดีและมีสภาพคล่องและสถานะทางการเงินเป็นปกติ

บริษัทขอให้ผู้ถือหุ้น นักลงทุนและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย พึงพิจารณาตรวจสอบข่าวสารที่เกิดขึ้นอย่างระมัดระวังและให้ความเชื่อมั่นและไว้วางใจแก่บริษัท ว่าบริษัทประกอบธุรกิจอย่างโปร่งใสภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป