บริษัท นำวิวัฒน์ เมดิคอล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ"NAM"เป็นบริษัทผู้ผลิต นำเข้า และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ สำหรับการทำความสะอาดและฆ่าเชื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ ซึ่งเป็นธุรกิจที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่เป็น “เมกะเทรนด์” ของโลก โดย NAM เตรียมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ด้วยการเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 181 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (Par) หุ้นละ 0.50 บาท เพื่อนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปขยายโรงงานแห่งใหม่และลงทุนอื่นเพื่อพัฒนาส่งเสริมการประกอบธุรกิจ
บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ลิเบอเรเตอร์ ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า ธุรกิจของ NAM ถือเป็น"จิ๊กซอว์สำคัญ"ของวงการแพทย์ มีส่วนสำคัญสนับสนุนวงการแพทย์ที่น่าสนใจโดยผลิตภัณฑ์และบริการทำความสะอาดและฆ่าเชื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ระดับปราศจากเชื้อ (Sterilization) ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากโดยการมีนวัตกรรมของตนเอง,มูลค่าแบรนด์ ‘NAM’ กำลังเติบโต , มีฐานลูกค้าเป็นภาครัฐ , มีกลุ่มบมจ. ปตท. (PTT) เป็นพาร์ตเนอร์ และบริษัทกำลังขยายกำลังผลิต ดังนั้น เชื่อว่าบริษัทจะเติบโตได้ดีในระยะยาว
แนวโน้มผลการดำเนินงาน : จากการแพรระบาดของโควิด-19 ยกฐานกำไรสุทธิปี 2564-2565 ขึ้นกว่า 50% เนื่องจากบริษัทอยู่ในห่วงโซ่บริการทางการแพทย์โดยมีลูกค้าหลักเป็นภาครัฐ 80% ซึ่งแม้ H1/66 บริษัทอุปกรณ์ก้ารแพทย์หลายแห่งกำไรสุทธิจะหดแรง -79.8% (yoy) เพราะความต้องการ ATK Test-Kit หมดไป แต่ทว่าสินค้า/บริการของบริษัทฯยังคงถูกใช้เพิ่ม ซ้ำแล้วซ้ำอีก เห็นได้จากกำไรสุทธิ H1/66 โตสวนทาง +82.3% (yoy)
จากทิศทางนี้คาดกำไรสุทธิในปี 66 อยู่ที่ 213 ล้านบาท เติบโต +21.1% (yoy) และปี 67 ที่ 308 ล้านบาทเติบโตอีก +44.5% (yoy)
โดยให้ราคาเหมาะสมปี 2567 อยู่ที่ 9.90 บาท ซึ่งอ้างอิงจาก P/E 22.5 เท่า ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยของ Global medical device company และใช้ ESP ปี 2567 ที่ 0.44 บาท ซึ่งรวมผลกระทบ Dilution effect ของหุ้น IPO นี้ไปแล้ว
บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า NAM เป็นผู้นำด้านการทำความสะอาด ฆ่าเชื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ครบวงจร ได้แก่ 1.กลุ่มผลิตและจำหน่ายเครื่องมือทางการแพทย์ (SM) 2.กลุ่มผลิตและจำหน่ายวัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์ (CS) และ 3.กลุ่มงานให้บริการ (SV) แบบครบวงจรโดยมีฐานลูกค้าสำคัญเป็นโรงพยาบาลและหน่วยงานองค์กรทางด้านสาธารณสุข กว่า 1,200 แห่ง ครอบคลุมทั้งในและต่างประเทศ ด้วยมาตรฐานสากลระดับเดียวกับยุโรปและอเมริกามาอย่างยาวนาน มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญมากกว่า 50 ปี
คาดการณ์ว่าบริษัทจะมีรายได้/กำไรเติบโตเฉลี่ย 3 ปี ได้ที่ระดับ 16% 22% (2565 - 2567F) โดยมาจากการเติบโตของทุกกลุ่มธุรกิจ อีกทั้งกำไรขั้นต้นจะปรับตัวดีขึ้นหลังบริษัทมีการควบคุมต้นทุนการผลิตให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นได้ โดยมีการบริหารต้นทุนวัตถุดิบอย่างเหมาะสมตามแผนการผลิต ส่วนรายได้ที่มีมาร์จินต่ำจากก่อสร้างปรับปรุงสถานที่จะจบในปี 2566 คาดกำไรสุทธิปี 2566-2567F จะเติบโตระดับ 23% และ 42% ตามลำดับ
เราประเมินมูลค่าเหมาะสมของ NAM สำหรับปี 2567 ไว้ที่ 9.70 บาท อิง PE 22 เท่า โดยสถานะการเงินของ NAM คาดว่าจะมีความแข็งแกร่งขึ้นอย่างเด่นซัดเป็น net-cash position หลัง IPO
บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า NAM ผู้นำเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ เกี่ยวกับการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ และให้บริการแบบครบวงจร ผลประกอบการมีแนวโน้มจะเติบโต ประเมินกำไรปี 2566-2568 จะเติบโตเฉลี่ย 28% CAGR
โดยให้ราคาเหมาะสมได้เท่ากับ 9.80 บาท บนพื้นฐาน P/E เท่ากับ 23 เท่า สูงกว่า P/E หมวดธุรกิจของใช้ส่วนตัวและเวชภัณฑ์ 20 เท่า เล็กน้อย เนื่องจากมีศักยภาพในการเติบโตที่ดีกว่า ที่ราคาเหมาะสมจะซื้อขาย P/E 23 เท่า P/BV 3.0 เท่า และมีอัตราผลตอบแทน 2.0% ในปี 2567
แนวโน้มผลประกอบการ NAM ยังเติบโต เนื่องจาก NAM มีศักยภาพที่จะเติบโตสูงในอนาคต โดยมี "จุดเด่น" คือ 1. เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมด้วยความรู้ ความเชี่ยวชาญ และ ประสบการณ์มาอย่างนานร่วม 53 ปี , 2.มีทีมงานวิจัยคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง , 3. อยู่ในอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง และสินค้าของ NAM มีลักษณะเฉพาะ (Niche) แนวโน้มปี 2566-2567 ประเมินรายได้จะเติบโตเฉลี่ย 20% CAGR เท่ากับการเติบโตเฉลี่ยในปี 2563-2565 สู่ระดับ 1,878 ล้านบาท และคาดกำไรจะเติบโตเฉลี่ย 28% CAGR สู่ระดับ 372 ล้านบาท ในปี 2567
บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า "NAM" เป็นหนึ่งในผู้นำเครื่องมือแพทย์ปราศจากเชื้อ ที่มีฐานลูกค้าโรงพยาบาลกว่า 1,200 แห่ง และมีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์กว่า 50 ปี และมีพันธมิตรที่แข็งแกร่งที่เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ในต่างประเทศ และ INNOBIC
NAM อยู่ในอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์เติบโตตามระบบสาธารณะสุขที่ดีอย่างต่อเนื่อง ด้วยมาตรฐานสาธารณะสุขของไทยมากขึ้น เพื่อรองรับนโยบายภาครัฐที่ต้องการให้ไทยเป็น Medical Hub และเป็นจุดหมายการรักษาของ Medical Tourism ของภูมิภาค และให้การสนับสนุนงบประมาณด้านสาธารณะสุขอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับสังคมโลกเข้าสู่ Aging Society ความต้องการรักษาด้านสุขภาพจึงมีมากขึ้น ดังนั้น เครื่องมือฆ่าเชื้ออุปกรณ์แพทย์จึงมีความจำเป็นและเพิ่มจำนวนมากขึ้น
ประเมินมูลค่าเหมาะสมหุ้น NAM ด้วย P/E เทียบกับค่าเฉลี่ย P/E ปี 2567 ที่ 21.8 เท่า ของผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ในต่างประเทศ และยังประเมินมูลค่าหุ้นจาก PEG ที่ 0.79 เท่า ซึ่ง NAM มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยในช่วงปี 2566-2568 อยู่ที่ประมาณ 28% อีกทั้งยังมีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ระดับ 20% ได้มูลค่าหุ้นที่เหมาะสม 10.00 บาทต่อหุ้น ภายใต้สมมุติฐานกำไรต่อหุ้นปี 2567 ที่ 0.44 บาท