บล.กสิกรไทย ประเมินแนวโน้มตลาดหุ้นไทย สัปดาห์ถัดไป (30 ต.ค.– 3 พ.ย.) คาดดัชนี SET (SET index ) มีแนวรับที่ 1,360 และ 1,350 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,400 และ 1,420 จุด ตามลำดับ
โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุมเฟด (31 ต.ค.–1 พ.ย.) ทิศทางเงินทุนต่างชาติ รวมถึงผลประกอบการไตรมาส 3/66 ของบจ.ไทย ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ การจ้างงานภาคเอกชนของ ADP ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราการว่างงาน ดัชนี ISM/PMI ภาคการผลิตเดือนต.ค. รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ การประชุม BOJ และ BOE ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/66 และดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนต.ค. (เบื้องต้น) ของยูโรโซน ตลอดจนดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนต.ค. ของญี่ปุ่น จีน และยูโรโซน
สรุปการเคลื่อนไหวตลาดหุ้น 24-27 ต.ค.66
การเคลื่อนไหวหุ้นไทยสัปดาห์ที่ผ่านมา ( 24-27 ต.ค.66 ) ดัชนี SET ฟื้นตัวกลับมาบางส่วนปลายสัปดาห์ หลังร่วงลงแรงในระหว่างสัปดาห์ โดยภาพรวมหุ้นไทยปรับตัวลงท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์ความไม่สงบในอิสราเอล การปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์สหรัฐฯ โอกาสที่เฟดจะตรึงดอกเบี้ยที่ระดับสูงเป็นเวลานาน ตลอดจนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศยังไม่มีข้อสรุป
อย่างไรก็ดีหุ้นไทยฟื้นตัวกลับมาบางส่วนปลายสัปดาห์ตามทิศทางหุ้นภูมิภาค ประกอบกับมีแรงซื้อคืนหุ้นบิ๊กแคป อนึ่ง หุ้นกลุ่มที่กดดันตลาดตลอดสัปดาห์นี้ ได้แก่ กลุ่มเทคโนโลยีซึ่งเผชิญแรงขายสอดคล้องกับหุ้นเทคโนโลยีในสหรัฐฯ และกลุ่มแบงก์ซึ่งเผชิญแรงขายทำกำไรหลังประกาศงบฯ ไตรมาส 3/66
ในวันศุกร์ที่ 27 ต.ค. 66 ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,388.23 จุด ลดลง 0.79% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 45,203.82 ล้านบาท ลดลง 4.69% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai ลดลง 1.96% มาปิดที่ระดับ 399.90 จุด
ขณะที่นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา 2,598 ล้านบาท แต่มีสถานะเป็น Net Inflows เข้าตลาดพันธบัตรไทย 9,695 ล้านบาท (ซื้อสุทธิพันธบัตร 10,973 ล้านบาท หักตราสารหนี้หมดอายุ 1,278 ล้านบาท)