"หุ้นกลุ่มค้าปลีก"เด้งรับ แจกเงินดิจิทัล -ซื้อสินค้า 5 หมื่นขอคืนภาษีได้

10 พ.ย. 2566 | 08:05 น.
อัพเดตล่าสุด :10 พ.ย. 2566 | 08:46 น.

หุ้น“กลุ่มค้าปลีก” ดีดยกแผง ขานรับนายกฯ ประกาศชัดแจก"เงินดิจิทัล" พร้อมเปิดโครงการ e-Refund ซื้อสินค้าไม่เกิน 5 หมื่นบาทขอคืนภาษีได้ "บล.กรุงศรี พัฒนสิน" มองหนุนหุ้นกลุ่มค้าปลีก-เช่าซื้อ-ดิจิทัล เปิดโผ 9 หุ้นได้ประโยชน์เต็ม

10 พ.ย.2566 "หุ้นกลุ่มค้าปลีก" บวกยกแผง รับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง แถลงความชัดเจนนโยบายเงินดิจิทัล "Digital Wallet"  

โดยเมื่อเวลา 15.27 น. หุ้นกลุ่มค้าปลีก  ปรับตัวเพิ่มขึ้น นำโดย

  • BJC บวก 4.63% มาอยู่ที่ 28.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 130.68 ล้านบาท
  • CPALL บวก 2.27% มาอยู่ที่ 56.25 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท มูลค่าซื้อขาย 1,410.71 ล้านบาท
  • CPAXT บวก 2.80% มาอยู่ที่ 27.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท มูลค่าซื้อขาย 556.59 ล้านบาท
  • CRC บวก 4.03% มาอยู่ที่ 38.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 728.97 ล้านบาท 
  • DOHOME บวก 3.48% มาอยู่ที่ 11.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท มูลค่าซื้อขาย 221.78 ล้านบาท
  • GLOBAL บวก 2.37% มาอยู่ที่ 17.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท มูลค่าซื้อขาย 275.25 ล้านบาท

 

จากการที่นายกรัฐมนตรี ประกาศรายละเอียดนโยบายเงินดิจิทัล "Digital Wallet" สรุปดังนี้

  • 1) กำหนดผู้รับสิทธิ์ อายุเกิน 16 ปี รายได้ไม่ถึง 7 หมื่นบาท-เงินฝากน้อยกว่า 5 แสนบาท จำนวน 50 ล้านคน
  • 2) แหล่งที่มาเงินทุน คือ จำนวน 5.0 แสนล้านบาท การออก พ.ร.บ. วงเงินกู้เงิน 5.0 แสนล้านบาท และต้องผ่านกระบวนการสภา ขณะที่จะจัดสรรงบประมาณมาคืนเงินกู้ตลอด 4 ปี
  • 3) กำหนดกลุ่มสินค้าที่ใช้ได้ในส่วน สินค้าอุปโภค บริโภค และไม่ครอบคลุมร้านค้าออนไลน์
  • 4) กำหนดรัศมีการใช้งาน ภายในอำเภอตามทะเบียนบ้าน
  • 5) Platform ที่จะพัฒนามาจาก เป๋าตัง
  • 6) ระยะเวลาโครงการเบื้องต้นกำหนด พ.ค. 2567
  • นอกจากนี้ นายกฯ ออกโครงการ e-Refund ให้คนซื้อสินค้าไม่เกิน 5 หมื่นบาทขอคืนภาษีได้ มีผล ม.ค. 2567

นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.กรุงศรี พัฒนสิน กล่าวว่า ความชัดเจนจากนโยบาย "Digital Wallet"โดยการปรับลดวงเงินจากเดิม แหล่งที่มาเงินทุนแม้เป็นการกู้เงิน แต่ต้องผ่านการตรวจสอบสภา ก่อนที่จะตั้งงบประมาณ มองมีโอกาสสร้างความเชื่อมั่นต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิภาพ คือ ใช้เม็ดเงินลดน้อยลงลดความกังวลตลาดต่อเรื่องการก่อหนี้ และ Credit Risk ขณะที่ประสิทธิภาพตรงตามกลุ่มเป้าหมาย ผสานจำกัดกลุ่มสินค้าอุปโภค บริโภค จะช่วยเม็ดเงินสร้างประสิทธิภาพได้ไม่ต่างจากแผนเดิม

 

- ในส่วนของ Digital Wallet ประเมินบวกต่อกลุ่ม Consumer Staple เน้น CPALL, CPAXT, DOHOME, GLOBAL ที่มีข้อได้เปรียบร้านค้า

- ส่วนนโยบาย E-refund เน้นการจับจ่ายออนไลน์ มองบวกต่อกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย อาทิ COM7, CRC, JMART

- นอกจากนี้ กำลังซื้อที่ดีขึ้น จะหนุนกลุ่มเช่าซื้อ MTC รวมถึงติดตามหนี้

- การพัฒนาระบบ Blockchain บน Platform เป๋าตัง จะนำไปสู่ระบบเศรษฐกิจดิจิทัล บวกต่อกลุ่ม Digital Tech BBIK, BE8, ADVANC

Strategy : ปัจจุบันเศรษฐกิจไทยกำลังอยู่ในจุดฟื้นตัว การส่งออกดีขึ้น นำเข้าลดลง (จากราคาพลังงานต่ำลง) ท่องเที่ยวฟื้นเร่ง ภาคบริโภคส่งสัญญาณฟื้นตัวจากดัชนีชี้นำ CCI ภาพนโยบาย Digital Wallet ที่ชัดเจนขึ้น ผสาน โครงการ E-Refund มองนำหุ้นกลุ่มได้ประโยชน์นำตลาดฟื้นตัวช่วงบ่าย ขณะที่คาดจะสร้างความเชื่อมั่นต่อตลาดได้ มอง SET มีโอกาสฟื้นตัวจากปัจจุบันที่อยู่ในโซนลงทุน PBV อยู่ราว 1.34 เท่า ใกล้ระดับ ค่าเฉลี่ย – 2 S.D.

หุ้นที่มีโอกาสขึ้นมาประคองตลาด 9 หุ้นเด่น 

  • กลุ่มได้ประโยชน์นโยบาย Digital Wallet ชัดเจนและการเร่งกระตุ้นบริโถครัฐบาล E-Refund CPAXT, DOHOME, GLOBAL, CRC, COM7, MTC กลุ่มดิจิทัล BBIK, BE8, ADVANC