วันที่ 13 พฤศจิกายน 2566 นางสาวสุธิดา จงเจนกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ธนูลักษณ์ จำกัด (มหาชน) หรือ TNL เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2566 บริษัทฯ มีรายได้รวมที่ 842 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 305 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีกำไรสุทธิ 271 ล้านบาท เติบโตขึ้น 235 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 653% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากบริษัทฯ เริ่มรับรู้รายได้จาก 3 ธุรกิจใหม่ในปี 2566
สำหรับผลประกอบการในงวด 9 เดือน ปี 2566 บริษัทฯ รายได้รวมที่ 2,186 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 730 ล้านบาท หรือโตขึ้นกว่า 50% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสุทธิ 501 ล้านบาท เติบโตขึ้น 422 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 534% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากการเสริมทัพด้วย 3 Growth Engine ใหม่ โดยสามารถเพิ่มอัตรากำไรสุทธิเป็น 23% ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับ 5% ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
นางสาวสุธิดา กล่าวว่า ทิศทางการดำเนินธุรกิจในไตรมาสที่ 4 ปี 2566 บริษัทฯ ยังคงมุ่งขยายธุรกิจ ทั้ง 4 ธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตของรายได้อย่างสม่ำเสมอ โดยมี 3 ธุรกิจใหม่ที่เป็น New Growth Engine ที่จะช่วยเพิ่มอัตราการทำกำไรให้เติบโตอย่างยั่งยืนให้แก่บริษัทในระยะยาว อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความผันผวนทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน และสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ที่มีความไม่แน่นอนสูง บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการเติบโตพอร์ตสินเชื่อ และพอร์ตลงทุน NPLs อย่างมีคุณภาพและระมัดระวัง และเน้นการบริหารความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ เพื่อเป็นการรักษาคุณภาพของพอร์ตสินเชื่อ Oxygen และใช้กลยุทธ์เชิงรุกในการบริหารจัดการหนี้ด้อยคุณภาพของ AMC
ทั้งนี้ ตอกย้ำด้วยผลการประเมินการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทย (CGR) ประจำปี 2566 ล่าสุดที่จัดขึ้นโดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ภายใต้การสนับสนุนของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยบริษัทฯ ได้รับการประเมินในระดับ 5 ดาว หรือ “ดีเลิศ” (Excellent CG Scoring) โดยได้คะแนนสูงถึง 108% ซึ่งตอกย้ำศักยภาพการดำเนินงานของบริษัท ที่มุ่งเน้นพัฒนาการกำกับดูแลกิจการที่ดี และสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืน
ล่าสุด บริษัทฯ ได้ออกหุ้นกู้จำนวน 500 ล้านบาท ซึ่งเป็นการออกหุ้นกู้ครั้งแรกของบริษัทฯ โดยได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างล้นหลาม โดยมีนักลงทุนทั้งนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่ เสนอความต้องการซื้อเข้ามาจำนวนมาก ซึ่งได้ดำเนินการการขายเสร็จสิ้นแล้ว โดยวัตถุประสงค์ของการเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้ เพื่อเตรียมเป็นเงินทุนสำหรับการขยายธุรกิจ ทั้งธุรกิจให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบการที่มีหลักประกัน (Secured Lending) และธุรกิจบริหารจัดการสินทรัพย์ (AMC) ในอนาคต
นางสาวสุธิดา กล่าวว่า บริษัทฯ เป็นหนึ่งบริษัทในเครือสหพัฒน์ที่มีประวัติยาวนาน โดยก่อตั้งมาแล้ว 48 ปี ที่ผ่านมาสามารถสร้างผลประกอบการและผลตอบแทนที่ดีให้แก่ผู้ถือหุ้นมาอย่างต่อเนื่อง และในปี 2566 ถือเป็นปีแรกที่บริษัทฯ ได้ปรับโฉมธุรกิจใหม่ ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยเข้าลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพเติบโตในสัดส่วนที่มีนัยสำคัญ โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างการเติบโตเพิ่มขึ้นและยั่งยืนให้กับบริษัทด้วยการปรับเปลี่ยนใน 2 ด้าน ได้แก่ 1.โครงสร้างธุรกิจ โดยการเพิ่ม 3 ธุรกิจใหม่ที่จะมาเป็น New Growth Engine แก่บริษัท และ 2. โครงสร้างองค์กร โดยมี Strategic Partner บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เข้ามาร่วมถือหุ้นในบริษัทฯ เพื่อร่วมขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตไปด้วยกัน
ปัจจุบัน บริษัทฯ ดำเนินงานใน 4 ธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม ซึ่งเป็นธุรกิจที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญอยู่เดิม และเสริมทัพด้วยธุรกิจใหม่จากผนึกความร่วมมือกับพันธมิตรอย่าง BTS ได้แก่ ธุรกิจให้สินเชื่อแก่ผู้ประกอบการที่มีหลักประกัน (Secured Lending) และธุรกิจการเงินประเภทธุรกิจบริหารสินทรัพย์ (AMC) นอกจากนี้ ยังมีธุรกิจการลงทุนในบริษัทร่วมทุนเพื่อประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย เพื่อเติมเต็ม Ecosystem ของธุรกิจสู่การเป็นผู้นำอย่างครบวงจร.